บิตคอยน์พุ่งสุดขีดในรอบ 10 วันเมื่อวันจันทร์ (13) ดันมูลค่าตลาดคริปโตดีดกลับขึ้นไปเหนือระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์ หลังทางการสหรัฐฯ ออกโรงปกป้องผู้ฝากเงินในซิลิคอน แวลลีย์ แบงก์ และเอชเอสบีซีประกาศเข้าซื้อสาขาในอังกฤษของแบงก์แห่งนี้ โดยที่ทางการเมืองผู้ดียืนยันคุ้มครองเงินฝากของลูกค้าและจะไม่ดึงภาษีของประชาชนมาใช้
ราคาบิตคอยน์ (บีทีซี) บวก 10% อยู่ที่ 22,560.20 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 3.00 น. วันจันทร์ตามเขตเวลาตะวันออก (14.00 น.โดยประมาณตามเวลาไทย) ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 10 วันที่ผ่านมา และราคาคริปโตอีกหลายสกุลพุ่งขึ้นเช่นกัน เช่น อีเธอเรียมที่ขยับขึ้น 2% อยู่ที่ 1,585.58 ดอลลาร์
ข้อมูลของคอยน์ เมตริกซ์ยังระบุว่า ตลาดคริปโตโดยรวมมีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 70,000 ล้านดอลลาร์ในรอบ 24 ชั่วโมงจนถึงเวลา 2.00 น. วันจันทร์ตามเขตเวลาตะวันออก และดีดกลับขึ้นไปเหนือระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์
ตลาดคริปโตเหวี่ยงแรงนับจากซิลเวอร์เกต แคปิตอล ผู้ปล่อยสินเชื่อรายใหญ่ให้อุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิตอลล้มเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ถัดมาในวันศุกร์ (10) ถึงคิวซิลลิคอน แวลลีย์ แบงก์ (เอสวีบี) หลังจากลูกค้าแห่ถอนเงินและทำให้ธนาคารขนาดกลางแห่งนี้ไม่สามารถดำเนินการด้วยตัวเองต่อไปได้ และถือเป็นความล้มเหลวด้านการธนาคารครั้งใหญ่ที่สุดของอเมริกานับจากวิกฤตการเงินโลกปี 2008
ทั้งนี้ เอสวีบีเป็นผู้ปล่อยกู้หลักให้แก่สตาร์ทอัพทั่วอเมริกานับจากทศวรรษ 1980 และเป็นธนาคารใหญ่สุดอันดับที่ 16 ของอเมริกาในแง่สินทรัพย์ ด้วยมูลค่าสินทรัพย์ 209,000 ล้านดอลลาร์ และเงินฝากราว 175,400 ล้านดอลลาร์เมื่อปลายปี 2022
มาวันอาทิตย์ (12) ทางการสหรัฐฯ สั่งปิดซิกเนเจอร์ แบงก์ ธนาคารระดับภูมิภาคในนิวยอร์กที่ปล่อยกู้ให้อุตสาหกรรมคริปโต หลังจากราคาหุ้นดิ่งเหว เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาลุกลามไปทั่วอุตสาหกรรมการธนาคาร
วันเดียวกันนั้น กระทรวงการคลัง ธนาคารกลาง (เฟด) และสถาบันรับประกันเงินฝากสหรัฐฯ (เอฟดีไอซี) ออกแถลงการณ์ร่วมยืนยันว่า ผู้ฝากเงินในเอสวีบีจะสามารถเข้าถึงเงินของตนตั้งแต่วันจันทร์ และสำทับว่า ความเสียหายจากกรณีเอสวีบีล้มจะไม่กลายเป็นภาระของผู้เสียภาษี อีกทั้งระบุว่า ผู้ฝากเงินในซิกเนเจอร์ แบงก์จะสามารถถอนเงินคืนทั้งหมดเช่นเดียวกัน
เฟดยังประกาศจัดตั้งกองทุนพิเศษเพื่อช่วยให้ธนาคารพาณิชย์ตอบสนองความต้องการของผู้ฝากเงิน ซึ่งรวมถึงการขอถอนเงิน
แถลงการณ์ร่วมของสามหน่วยงานกำกับดูแลภาคการเงินของสหรัฐฯ ระบุว่า มาตรการเหล่านี้มีจุดประสงค์เพื่อปกป้องเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยการเสริมสร้างความเชื่อมั่นของสาธารณชนที่มีต่อระบบการธนาคาร พร้อมยืนยันว่า ระบบการธนาคารของอเมริกาจะยังยืดหยุ่นและอยู่บนรากฐานที่มั่นคง
ก่อนหน้าที่จะมีการออกแถลงการณ์ร่วมนี้ไม่กี่ชั่วโมง เจเน็ต เยลเล็น รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์เครือข่ายซีบีเอสยืนยันว่า รัฐบาลจะไม่อุ้มนักลงทุนของเอสวีบี โดยอ้างอิงบทเรียนและการปฏิรูปภายหลังวิกฤตการเงินโลกปี 2008 แต่สำทับว่า หน่วยงานกำกับดูแลกังวลเกี่ยวกับผู้ฝากเงินและกำลังดำเนินการเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ฝากเงิน
วีเจย์ อัยยาร์ รองประธานฝ่ายพัฒนาองค์กรและตลาดระหว่างประเทศของกระดานเทรดคริปโต ลูโน ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซีว่า แถลงการณ์ของทางการสหรัฐฯ ทำให้ตลาดเบาใจว่า เงินของผู้ฝากได้รับความคุ้มครอง และสามารถหลีกเลี่ยงแนวโน้มการแห่ถอนเงินจากแบงก์ได้
นอกจากนี้ยังมีข่าวดีจากทางฝั่งอังกฤษ หลังจากแบงก์ยักษ์ เอชเอสบีซีตกลงเข้าซื้อบริษัทในเครือในอังกฤษของเอสวีบีด้วยราคา 1 ปอนด์ภายใต้ข้อตกลงช่วยกู้ฟื้นกิจการ และกระทรวงการคลังอังกฤษแถลงเมื่อวันจันทร์ว่า จะไม่นำเงินภาษีของประชาชนมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ รวมทั้งจะคุ้มครองเงินฝากของลูกค้าในเอสวีบี