เจอโรม พาวเวลล์ ประธานผู้ว่าการเฟด ชี้จำเป็นต้องติดตามตรวจสอบอุตสาหกรรมคริปโตอย่างใกล้ชิดเนื่องจากเต็มไปด้วยความวุ่นวาย การฉ้อโกง และความเสี่ยง กระนั้น หน่วยงานกำกับดูแลต้องเปิดใจยอมรับว่า อุตสาหกรรมนี้มีเทคโนโลยีที่อาจส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมที่ทำให้ชีวิตผู้คนดีขึ้น จึงไม่ควรตั้งกฎระเบียบที่อาจปิดกั้นนวัตกรรมในเทคโนโลยีนี้
ระหว่างแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคาร การเคหะ และชุมชนเมืองของวุฒิสภาเมื่อวันอังคาร (7) พาวเวลล์กล่าวว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จับตาสถานการณ์ในอุตสาหกรรมคริปโตอย่างใกล้ชิด ซึ่งปีที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์วุ่นวายมากมายในแวดวงสินทรัพย์ดิจิตอล ทั้งบริษัทหลายแห่งล่ม การเปิดโปงการฉ้อโกงครั้งใหญ่ การขาดความโปร่งใส และความเสี่ยง และสิ่งที่เฟดทำคือ ทำให้แน่ใจว่า สถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของเฟดใช้ความระมัดระวังอย่างมากเมื่อเข้าไปเกี่ยวข้องกับคริปโต
การแสดงความคิดเห็นของเฟดตอกย้ำแถลงการณ์ร่วมของคณะผู้ว่าการเฟด สถาบันคุ้มครองเงินฝากสหรัฐฯ (เอฟดีไอซี) และสำนักงานผู้ควบคุมเงินตราสหรัฐฯ (โอซีซี) ที่เตือนสถาบันการธนาคารเกี่ยวกับความเสี่ยงในการเกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิตอล
แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า องค์กรที่มีรูปแบบธุรกิจที่รวมศูนย์อยู่ที่กิจกรรมเกี่ยวกับคริปโตหรือลงทุนจำนวนมากในสินทรัพย์คริปโต อาจมีคุณสมบัติไม่ตรงตามมาตรฐานความปลอดภัยและเสถียรภาพในการทำธุรกิจในอเมริกาต่อไป
ซิลเวอร์เกตแบงก์คือตัวอย่างล่าสุดของอันตรายของการธนาคารที่มุ่งเน้นคริปโต หลังจากลูกค้าคริปโตส่วนใหญ่แห่ถอนเงินฝากจากบริษัทแห่งนี้
อย่างไรก็ตาม พาวเวลล์สำทับว่า หน่วยงานกำกับดูแลต้องเปิดกว้างยอมรับแนวคิดที่ว่า ในอุตสาหกรรมคริปโตมีเทคโนโลยีที่อาจส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมที่ทำให้ชีวิตผู้คนดีขึ้น ดังนั้น จึงไม่ควรตั้งกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคขัดขวางนวัตกรรม และรัฐสภาควรกำหนดกรอบโครงกฎหมายสำหรับสินทรัพย์ดิจิตอล
ในแถลงการณ์เมื่อเดือนมกราคมที่คณะผู้ว่าการเฟดระบุว่า สเตเบิลคอยน์หรือคริปโตที่ผูกกับราคาเงินเฟียตอย่างเช่นดอลลาร์ มีแนวโน้มเสี่ยงหรือเสี่ยงถูกผู้ใช้แห่ถอน ทว่า เมื่อวันอังคาร พาวเวลล์กลับบอกว่า สเตเบิลคอยน์อาจมีลู่ทางในภาคบริการทางการเงินหากมีกฎระเบียบควบคุมอย่างเหมาะสม
เขาย้ำว่า ระเบียบข้อบังคับสำหรับคริปโตและสเตเบิลคอยน์ควรเลียนแบบระเบียบข้อบังคับสำหรับโลกการเงินดั้งเดิม แม้มีเสียงเรียกร้องจากอุตสาหกรรมคริปโตให้ปรับกฎให้เหมาะสมกับสินทรัพย์ดิจิตอลมากขึ้นก็ตาม
ประธานผู้ว่าการเฟดยังบอกว่า ขณะนี้มีความกังวลอย่างแท้จริงเกี่ยวกับบล็อกเชนสาธารณะที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้โดยไม่มีข้อจำกัด เพราะเท่ากับเป็นการเปิดช่องสำหรับการฉ้อโกง การฟอกเงิน และกิจกรรมผิดกฎหมายอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม การแสดงความคิดเห็นของพาวเวลล์เกี่ยวกับเศรษฐกิจกลับเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อตลาดคริปโตรวดเร็วที่สุด เพราะหลังจากที่ประธานผู้ว่าการเฟดบอกว่า ความกดดันด้านเงินเฟ้อสูงกว่าที่คาดไว้ และเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยแรงขึ้นและเร็วขึ้น ราคาบิตคอยน์ที่ถูกมองเป็นสินทรัพย์เสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบหากมีการขึ้นดอกเบี้ย รูดลงทันที 1.6% และดิ่งต่ำกว่าระดับ 22,000 ดอลลาร์ ก่อนกระเตื้องขึ้นมาเทรดที่ 22,319 ดอลลาร์