ราคาน้ำมันขยับลงมากกว่า 2 ดอลลาร์ และทองคำร่วงหนักในวันอังคาร (7 มี.ค.) จากข้อมูลทางเศรษฐกิจจีน ชาติผู้บริโภครายใหญ่ และความเห็นของประธานเฟด ที่โหมกระพือความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ย ปัจจัยหลังนี้ฉุดให้วอลล์สตรีทปิดลบหนักเช่นกัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 2.88 ดอลลาร์ ปิดที่ 77.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 2.89 ดอลลาร์ ปิดที่ 83.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
แรงกดดันที่มีต่อตลาดพลังงานมาจากการหดตัวของการส่งออกและนำเข้าของจีนในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ ในนั้นรวมถึงการนำเข้าน้ำมันดิบ แม้ยกเลิกข้อจำกัดสกัดโควิด-19
ราคาน้ำมันร่วงลงหนักยิ่งขึ้น หลัง เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ให้ปากคำต่อสภาคองเกรส ว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดอาจจำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยเกินคาดหมาย ตามหลังข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเมื่อเร็วๆ นี้
ความคิดเห็นดังกล่าวดันให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งการแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้ราคาน้ำมันที่ซื้อขายด้วยสกุลเงินสหรัฐฯ มีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ซื้อผู้ถือสกุลเงินอื่นๆ
ปัจจัยข้างต้นนี้เองฉุดให้ราคาทองคำในวันอังคาร (7 มี.ค.) ปรับลดอย่างหนัก โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 34.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,820.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบแรงในวันอังคาร (7 มี.ค.) หลัง พาวเวล ให้ปากคำต่อสภาคองเกรส เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่อาจต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าที่าดหมาย ในความพยายามควบคุมเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง
ดาวโจนส์ ลดลง 574.98 จุด (1.72 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 32,856.46 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 62.05 จุด (1.53 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,986.37 จุด แนสแดค ลดลง 145.40 จุด (1.25 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,530.33 จุด
วอลล์สตรีทแกว่งตัวลง หลังมีการเผยแพร่ร่างเอกสารคำแถลงของพาวเวล ก่อนหน้าเข้าให้ปากคำ และดิ่งลงหนักยิ่งขึ้นระหว่างการเข้าให้ข้อมูลต่อสภาคองเกรส ด้วยที่เขาบอกกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ว่าเฟดเตรียมพร้อมเคลื่อนไหวใหญ่กว่าเดิม หากว่าข้อมูลทางเศรษฐกิจบ่งชี้ว่ามาตรการเข้มข้นขึ้นนั้นมีความจำเป็นเพื่อควบคุมราคาที่พุ่งสูง
คำกล่าวนี้ถือเป็นความคิดเห็นแรกของเขา นับตั้งแต่ข้อมูลเผยให้เห็นว่าเงินเฟ้อสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้นผิดคาดในเดือนมกราคม และรัฐบาลอเมริการายงานตัวเลขการจ้างงานเพิ่มขึ้นมากเกินคาดหมายในเดือนเดียวกัน
หลังจาก พาวเวล แสดงความคิดเห็นดังกล่าว พวกนักลงทุนปรับเพิ่มคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ มีความเป็นไปได้ว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมีนาคม
(ที่มา : รอยเตอร์)