ราคาน้ำมันปรับขึ้นเล็กน้อยในวันจันทร์ (6 มี.ค.) ในขณะที่บรรดาผู้บริหารบริษัทน้ำมันประชุมกันที่เวทีสัมมนาทางพลังงานในฮิวส์ตัน พูดคุยกันเกี่ยวกับภาวะอุปทานตึงตัวและความหวังอุปสงค์เพิ่มขึ้นในจีน ส่วนทองคำบวกและวอลล์สตรีทปิดในกรอบแคบๆ จับตาประธานเฟดเข้าให้ข้อมูลกับสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 78 เซนต์ ปิดที่ 80.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 35 เซนต์ ปิดที่ 86.18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ไมค์ เวิร์ธ ซีอีโอของเชฟรอน กล่าวในเวทีสัมมนาทางพลังงาน เซราวีก ว่า ตลาดน้ำมันและโลจิสติกส์อยู่ในภาวะตึงตัวและอ่อนแอต่อความปุ่นป่วนทางอุปทานใดๆ และแม้น้ำมันรัสเซียยังคงไหลเข้าสู่ตลาด แต่ก็เป็นไปในราคาที่แตกต่างกัน
ทอร์ปบอร์ท ทอร์นควิสต์ ซีอีโอของกุนวอร์ บริษัทเทรดดิ้ง มองว่า ราคาน้ำมันอาจปรับขึ้นในไตรมาส 2 ของปีนี้ เนื่องจากอุปสงค์จีนกลับเข้าสู่ตลาด
นอกจากปัจจัยข้างต้น ราคาน้ำมันได้แรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ทั้งนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้ราคาน้ำมันที่ซื้อขายด้วยสกุลเงินสหรัฐฯ มีราคาถูกลงสำหรับผู้ซื้อที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ และมันช่วยกระตุ้นอุปสงค์ทางพลังงาน
ปัจจัยดอลลาร์อ่อนค่านี้เองยังช่วยพยุงให้ราคาทองคำในวันจันทร์ (6 มี.ค. ) ปิดทรงตัว หลังจากก่อนหน้านี้ขยับลงมา 4 สัปดาห์ติดต่อกัน โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนเมษายนคงที่ ปิดที่ 1,854.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ แกว่งตัวลงปิดในกรอบแคบๆ ในวันจันทร์ (6 มี.ค.) นักลงทุนจับตาสัปดาห์แห่งการเข้าให้ปากคำต่อสภาคองเกรสของเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และข้อมูลเศรษฐกิจต่างๆ ในนั้นรวมถึงรายงานการจ้างงาน
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 40.47 จุด (0.12 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 33,431.44 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 2.78 จุด (0.07 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,048.42 จุด แนสแดค ลดลง 13.27 จุด (0.11 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,675.74 จุด
นักลงทุนจับตามองเงื่อนงำเกี่ยวกับเส้นทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ตอนที่ พาวเวล เข้าให้ปากคำต่อสภาคองเกรสในวันอังคาร (7 มี.ค.) และวันพุธ (8 มี.ค.) ทั้งนี้ นับตั้งแต่ พาวเวล พูดครั้งที่ผ่านมาเกี่ยวกับข้อมูลทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็งและเงินเฟ้อร้อนแรงเกินคาดหมาย ได้ก่อความกังวลเพิ่มเติมว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยสูงกว่าคาดหรือไม่ก็คงดอกเบี้ยระดับสูงไว้เป็นเวลานาน
เวลานี้นักลงทุนคาดหมายว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% อีกอย่างน้อย 3 ครั้งในปีนี้ และเห็นอัตราดอกเบี้ยปรับขึ้นแตะระดับสูงสุด 5.44% ในเดือนกันยายน จากระดับปัจจุบัน 4.67%
(ที่มา : รอยเตอร์)