หุ้นร้อน หุ้นเก็งกำไรยอดนิยม ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ มีเจ้ามือและขาใหญ่ดูแลหรือไม่ ช่วงนี้ร่วงกันกราวรูด หลายตัวดิ่งจนสร้างจุดต่ำสุดใหม่ในรอบปี
แต่ไม่มีหุ้นตัวไหนลงแรงหนักเหมือนหุ้น บริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น จำกัด หรือ JTS เพราะภายในเวลาไม่กี่เดือนลงมากว่า 90%
หุ้นที่ติดกลุ่มหุ้นร้อน หรือหุ้นเก็งกำไรยอดนิยมมีจำนวนหลายสิบตัว เช่น หุ้นบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY ในรอบ 12 เดือนเคยขึ้นสูงสุดที่ 38 บาท แต่ล่าสุดวันอังคารที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา ลงมาปิดที่ 11.20 บาท ลดลงจากจุดสูงสุด 26.80 บาท บาท หรือลดลง 70.50%
หุ้นบริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AJA ราคาเคยถูกลากขึ้นไปสูงสุดที่ 79 สตางค์ ก่อนจะถูกทุบรูดลงจนล่าสุดปิดที่ 26 สตางค์ ลดลงจากจุดสงสุด 53 สตางค์ หรือลดลง 67.08%
หุ้นบริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA ราคาเคยขึ้นไปสูงสุดที่ 96.25 บาท ล่าสุดปิดที่ 34.50 บาท ลดลงจากจุดสูงสุด 61.75 บาท
หุ้นบริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE ราคาเคยขึ้นไปสูงสุดที่ 98 บาท ล่าสุดปิดที่ 34 บาท หรือลดลง 64.15%
หุ้นบริษัท เมืองไทยแคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC ราคาเคยขึ้นไปสูงสุดที่ 64.25 บาท ล่าสุดปิดที่ 34 บาท ลดลง 30.25 บาท หรือลดลง 47.08%
และบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD ราคารอบ 12 เดือนเคยสูงสุดที่ 68.50 บาท ล่าสุดปิดที่ 40 บาท ลดลง 28.50 บาท หรือลดลง 41.60%
นอกจากนั้น ยังมีหุ้นกลุ่มที่ประกาศลงทุนตั้งเหมืองขุดบิตคอยน์อีกนับสิบบริษัท ซึ่งถูกจุดพลุ ปลุกเก็งกำไรจากการโหนกระแสเหมืองขุดบิตคอยน์อยู่ในช่วงสั้นๆ แต่ปัจจุบันอยู่ในสภาพหุ้นตายซาก พร้อมกระแสบิตคอยน์ที่ดับวูบลง
สำหรับ JTS ถือเป็นหุ้นตัวแม่ในกลุ่มเหมืองบิตคอยน์ เพราะประกาศจะซื้อเครื่องขุด 50,000 เครื่องในปี 2567 และจะมีผลผลิตบิตคอยน์ในสัดส่วน 5% ของกำลังผลิตทั้งโลก แต่แผนการอาจต้องทบทวนใหม่
เพราะการลงทุนตั้งเหมืองขุดบิตคอยน์ หรือเหรียญสกุลใดในโลกก็ตาม ปัจจุบันไม่คุ้มการลงทุน เพราะราคาเหรียญทรุดฮวบ และไม่รู้แนวโน้มจะลงต่อไปลึกขนาดไหน ขณะที่ต้นทุนการลงทุนสูงขึ้นมา โดยเฉพาะต้นทุนค่าไฟฟ้า
JTS หมดจุดขายแล้ว เพราะนอกจากการโหนกระแสตั้งเหมืองขุดบิตคอยน์ ก็ไม่มีประเด็นอะไรที่จะกระตุ้นการเก็งกำไร ราคาจึงถอยกรูดลงมาต่อเนื่อง
จากหุ้นสุดร้อนยอดฮิต ราคาเริ่มจาก 1.93 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 ปี 2564 ครองแชมป์หุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดอันดับ 1 โดยปิดที่ 131 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 6,867%
ปี 2564 ยังถูกลากขึ้นไปต่อ จนขึ้นไปสูงสุดที่ 594 บาท ระหว่างชั่วโมงซื้อขายวันที่ 27 เมษายน หรือเพิ่มขึ้นกว่า 30,000% เมื่อเทียบกับจุดปิดสิ้นปี 2563 ที่ 1.93 บาท
แต่หลังจากนั้นดิ่งลงม้วนเดียว หลุดจาก 500 บาท 400 บาท 300 บาท และล่าสุดปิดที่ 55.75 บาท ลดลงจากจุดสูงสุด 538.25 บาท หรือลดลง 90.61%
เกมของ JTS จบแล้ว บรรยากาศเก็งกำไรปิดฉากลง และไม่รู้ว่าจะเหลือนักลงทุนรายย่อยที่ค้างเติ่งอยู่บนยอดดอยสักเท่าไหร่ แต่เชื่อว่าน่าจะมีจำนวนน้อยมาก
เพราะนักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่เทขายหุ้นมาตลอดทาง และหุ้นอาจไปกองรวมอยู่ที่เจ้ามือหรือนักลงทุนรายใหญ่
นักลงทุนบางคนตั้งคำถามว่า JTS จะกลับไปบ้านเก่า โดยเริ่มจากตรงไหน จะกลับไปอวสานตรงจุดนั้นหรือไม่ หรือเริ่มต้นจากไม่กี่บาท สุดท้ายจะลงไปเหลือไม่กี่บาทหรือไม่
จาก 594 บาท ยังลงมาเหลือ 55.75 บาทได้ แต่จาก 55.75 บาท จะลงไปเหลือ 1.93 บาท คงไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่ทุกอย่างในตลาดหุ้นเป็นไปได้เสมอ จาก 1.93 บาท ยังวิ่งไปถึง 594 บาทได้อย่างเหลือเชื่อ
จาก 55.75 บาท จะทรุดลงไปเหลือไม่กี่บาท ทุกอย่างเป็นไปได้หมด เพราะ JTS วงแตกแล้ว