หุ้นไทยปิดตลาดร่วง -7.89 จุด โบรก ฯ เผยดัชนีปรับตัวลงจากแรงกดดันทิศทางอัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อของสหรัฐ ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่ากดเงินบาทอ่อนตัวลงแตะ 38 บาท/ดอลลาร์อีกครั้ง กระทบภาพการลงทุนในระยะสั้น แนะรัวังแรงขายลดความเสี่ยงก่อนหยุดยาว พร้อมประเมินกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวรับที่ 1,560 จุด และแนวต้าน 1,580 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 11 ต.ค. 2565 ปรับตัวลดลง -7.89 จุด หรือ -0.50% โดยปิดตลาดที่ 1,562.68 จุด มูลค่าการซื้อขาย 51,876.61 ล้านบาท โดยภาพรวมการลงทุนในวันนี้ ดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบๆ เคลื่อนไหวในแดนลบโดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,569.13 จุด ขณะเดียวกันก็ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,559.22 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 433 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 543 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 1,201 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +1,158.63 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -363.98 ล้านบาท บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -313.54 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -481.11 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,081.24 ล้านบาท ปิดที่ 55.00 บาท ลดลง 0.75 บาท
2.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,674.20 ล้านบาท ปิดที่ 71.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
3.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,616.65 ล้านบาท ปิดที่ 666.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
4.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,477.76 ล้านบาท ปิดที่ 170.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
5.GULF มูลค่าการซื้อขาย 1,178.52 ล้านบาท ปิดที่ 48.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.JMT ปิดที่ 61.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท หรือ 3.81%
2.KBANKปิดที่ 143.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 1.06%
3.SCGP ปิดที่ 52.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 1.46%
4.CBG ปิดที่ 82.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 0.92%
5.COM7 ปิดที่ 30.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 1.65%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่ 228.00 บาท ลดลง 5.00 บาทหรือ 2.15%
2.HANA ปิดที่ 34.50 บาท ลดลง 2.00 บาทหรือ -5.48%
3.CPN ปิดที่ 63.00 บาท ลดลง 2.00 บาทหรือ -3.08%
4.AOT ปิดที่ 71.50 บาท ลดลง 1.00 บาทหรือ -1.38%
5.SCB ปิดที่ 103.50 บาท ลดลง 1.00 บาทหรือ 0.96%
ด้านดัชนี SET100 ปิดที่ 2,110.10 จุด ลดลง -8.68 จุด หรือ -0.41% ขณะที่ดัชนี SET50 ปิดที่ 937.22 จุด ลดลง -3.40 จุด หรือ -0.36% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 628.36 จุด ลดลง -7.69 จุด หรือ -1.21%
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบๆ ในแดนลบ จากแรงกดดันทิศทางอัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อของสหรัฐ ทำให้ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่ากดเงินบาทอ่อนค่าแตะระดับ 38 บาท/ดอลลาร์อีกครั้ง ส่งผลกระทบต่อภาพการลงทุนในระยะสั้น
ขณะเดียวกันสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นไทยมีวันเทรดเพียง 3 วัน และในวันที่ 13 ต.ค. จะมีการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอปัจจัยดังกล่าว
ส่วนแนวโน้มการลงทุนวันพรุ่งนี้คาดว่าตลาดน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ นอกจากนี้นักลงทุนควรระวังแรงเทขายเพื่อลดความเสี่ยงก่อนหยุดยาว โดยประเมินกรอบดัชนีเคลื่อนไหวแนวรับที่ 1,560 จุด และแนวต้านที่ 1,580 จุด