นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ โบรกเกอร์บางสำนักเริ่มแนะนำให้ซื้อหุ้นกลุ่มส่งออก เพราะได้รับอานิสงส์จากค่าเงินบาทที่อ่อนตัว จนหลุด 38 บาทต่อดอลลาร์ แต่ราคาหุ้นกลุ่มส่งออกกลับทรุดลง โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
ถ้าไม่นับหุ้นบริษัท เดลต้า อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ซึ่งราคาหุ้นเคลื่อนไหวในลักษณะเฉพาะตัว ไม่ขึ้นลงตามทิศทางตลาดหุ้นโดยรวม และไม่ขึ้นลงตามกลุ่มแล้ว หุ้นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรนิกส์ตัวอื่นๆ ทรุดลงมาหนักมาก โดยเฉพาะหุ้นบริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ HANA
หุ้นบริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE แม้ปรับตัวลงลึกจากราคาสูงสุดในรอบ 12 เดือนที่ 95 บาท ล่าสุดเมื่อวันพุธที่ 28 กันยายนปิดที่ 44.50 บาท ซึ่งถือเป็นจุดปิดต่ำสุดใหม่ในรอบ 12 เดือน และเมื่อเทียบกับจุดสูงสุดปรับตัวลงมาแล้วกว่า 50%
แต่ HANA ร่วงลงแรงกว่า เพราะจากจุดสูงสุดในรอบ 12 เดือนที่ 96.25 บาท ล่าสุดปิดที่ 37.25 บาท ลดลงจากจุดสูงสุด 59 บาท หรือลดลง 61.29%
ทุกรอบของการอ่อนตัวของค่าเงินบาท หุ้นกลุ่มชิ้นส่วนฯ จะมีการซื้อขายที่คึกคัก ราคาปรับตัวขึ้น เพราะจะมีกำไรจากผลประกอบการที่เติบโต แต่ค่าเงินบาทที่อ่อนยวบครั้งนี้ หุ้นกล่มชิ้นส่วนกลับทรุดหนัก
ปีนี้ HANA เคยลงไปต่ำสุดที่ 36.75 บาท เมื่อวันที่ 6 เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ก่อนกระเตื้องขึ้น และย่ำฐานอยู่เหนือ 40 บาทมาพักใหญ่ จนปลายสัปดาห์ก่อนจึงหลุด 40 บาท และร่วงลงต่อเนื่อง
ค่าพี/อี เรโช HANA อยู่ที่ 27 เท่า อัตราเงินปันผลตอบแทน 5.23% โดยเป็นหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนฯ ที่มีอัตราเงินปันผลตอบแทนสูงสุด เมื่อเทียบกับหุ้น KCE ที่มีอัตราเงินปันผลตอบแทน 3.44% และมีค่าพี/อี เรโช 22 เท่า
โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับแรก HANA ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนสถาบันต่างประเทศและนักลงทุนสถาบันในประเทศ และมีผู้ถือหุ้นรายย่อย จำนวน 28,371 ราย ถือหุ้นรวมกันในสัดส่วน 57.77% ของทุนจดทะเบียน
ราคาหุ้นที่ไหลลงมาแตะระดับ 37 บาท กำลังทำให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวนเกือบ 3 หมื่นรายตกอยู่ในความเครียด เพราะขาดทุนกันถ้วนหน้า และไม่รู้ว่าราคาจะดิ่งลงลึกขนาดไหน
ผลประกอบการ HANA ชะลอตัวมา 2 ปีแล้ว โดยปี 2563 มีกำไรสุทธิ 1,807.74 ล้านบาท ปี 2564 กำไรสุทธิชะลอตัวลงเหลือ 1,545.31 ล้านบาท และงวด 6 เดือนแรกปีนี้ มีกำไรสุทธิ 609.95 ล้านบาท ลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,037.97 ล้านบาท
ผลประกอบการครึ่งปีแรกที่ชะลอตัวเกิดจากผลกำไรจาการดำเนินงานลดลง และผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน
สิ่งที่นักลงทุนกำลังเฝ้าจับตาดูอยู่คือ ผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ซึ่งอย่างช้าจะประกาศประมาณกลางเดือนพฤศจิกายน แต่คนวงในบริษัทอาจพอประเมินผลประกอบการเบื้องต้นได้ โดยค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลง น่าจะทำให้ HANA มีกำไรสูงขึ้น เพราะส่งออกได้รับเงินเป็นดอลลาร์ เมื่อแปลงมาเป็นเงินบาทจะมีกำไรมากขึ้น
แต่ทำไมราคาหุ้น HANA หรือแม้แต่ KCE จึงร่วงผล็อยกันลงมา หรือว่าผลประกอบการกลุ่มชิ้นส่วนฯ ไตรมาสที่ 3 ยังฟุบต่อ
ราคาหุ้น HANA ที่ย่อลงมาล่อตาล่อใจให้ช้อนเก็บอยู่เหมือนกัน แต่สิ่งต้องระวังคือ หุ้นส่ออาการว่า แนวโน้มจะลงต่อ และอาจได้เห็นจุดต่ำสุดใหม่ๆ
จะเก็บ HANA ซื้อไว้วัดดวง ดักเก็งกำไรช่วงดีดกลับอาจต้องยับยั้งชั่งใจบ้าง ถ้าประเมินไม่ได้ว่าจุดต่ำสุดใหม่ของหุ้นตัวนี้อยู่ตรงไหน
