ถ้าขยับขึ้นอีกเพียง 1 บาท หุ้นบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT จะพุ่งไปแตะจุดสูงสุดเดิมในรอบ 12 เดือน และกลายเป็นหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวหรือหุ้นกลุ่มเปิดเมืองที่ฟื้นตัวเร็วที่สุด แม้ผลประกอบการยังขาดทุนก็ตาม
วันอังคารที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา ราคาหุ้น AOT ปิดที่ 69.75 บาท เพิ่มขึ้น 50 สตางค์ โดยราคาสูงสุดในรอบ 12 เดือนอยู่ที่ 70.75 บาท
ราคาที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องทำให้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือมาร์เกตแคปขยับขึ้นตาม จนเป็นหุ้นที่มีมาร์เกตแคปสูงสุดอันดับ 1 ในตลาดหุ้น โดยมีมาร์เกตแคปจำนวน 989,284.72 ล้านบาท แซง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ซึ่งมีมาร์เกตแคปจำนวน 949,719.63 ล้านบาท
PTT ครองความเป็นหุ้นที่มีมาร์เกตแคปสูงสุดในตลาดหลักทรัพย์มายาวนานนับสิบปี แต่ราคาหุ้นที่ถดถอย ทำให้มาร์เกตแคปลดลง ขณะที่หุ้น AOT ราคาขยับขึ้น จนมาร์เกตแคปแซงหน้า PTT
ช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด แม้ AOT ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง โดยผลประกอบการทรุดหนัก จากกำไรที่เติบโต พลิกเป็นขาดทุนกว่า 1.6 หมื่นล้านบาทในปี 2564 และไตรมาสแรกปีนี้ยังขาดทุนอยู่ แต่ราคาหุ้นกลับปรับตัวลงน้อยมาก ถ้าเทียบกับหุ้นในกลุ่มการท่องเที่ยวด้วยกัน
ในรอบ 12 เดือน ราคาหุ้น AOT เคยลงไปต่ำสุดที่ 55.50 บาท ถ้าเทียบกับราคาสูงสุด AOT ปรับตัวลงเพียง 20% เท่านั้น ขณะที่หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวตัวอื่นปรับตัวลงระดับ 40-50% ช่วงวิกฤตโควิด
ผลประกอบการที่ทรุดหนัก ไม่ได้ทำให้นักลงทุนหวั่นไหวจนตื่นตระหนกเทขายหุ้นทิ้ง โดยปี 2564 ผลประกอบการขาดทุน 16,322.01 ล้านบาท และไตรมาสแรกปีนี้ ขาดทุน 7,548.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุน 7,086.06 ล้านบาท
แม้การท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัวเต็มรูปแบบ และผลประกอบการของ AOT คงไม่กลับมาดีเหมือนเดิมในระยะเวลาอันสั้น แต่ดูเหมือนนักลงทุนพร้อมรอคอยการกลับมาของหุ้นตัวนี้ โดยเมื่อมีข่าวเชิงบวกเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ราคาจะพุ่งขึ้นขานรับทันที แต่เมื่อมีข่าวเชิงลบ ราคากลับไม่ลงรุนแรงแต่อย่างใด
ปริมาณหุ้น AOT ที่หมุนเวียนซื้อขายในตลาดมีไม่มาก โดยกระทรวงการคลังถือหุ้นสัดส่วน 70% ของทุนจดทะเบียน และนักลงทุนสถาบันถือหุ้นรวมกันสัดส่วนกว่า 10% จึงมีหุ้นที่ซื้อขายหมุนเวียนในหมู่นักลงทุนรายย่อยเพียง 10% เศษ และนักลงทุนที่ซื้อหุ้นตัวนี้มักจะถือเพื่อการลงทุนระยะยาว แม้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลจะต่ำก็ตาม
โบรกเกอร์กว่า 10 สำนัก ได้ออกบทวิเคราะห์หุ้น AOT ส่วนใหญ่แนะนำให้ซื้อ โดยราคาเป้าหมายเฉลี่ยแต่ละโบรกเกอร์อยู่ที่ 73.75 บาท แต่บางโบรกเกอร์ให้ราคาเป้าหมายต่ำสุดที่ 53 บาท และบางโบรกเกอร์ประเมินราคาเป้าหมายสูงสุดที่ 89 บาท
ผลประกอบการ AOT มีแนวโน้มกระเตื้องขึ้น โดยได้รับอานิสงส์จากนโยบายเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และนักท่องเที่ยวก็เดินทางเข้ามาประเทศไทยหนาตาขึ้น
ปีนี้ผลประกอบการอาจไม่กำไร เพียงแต่ขาดทุนน้อยลง เมื่อเทียบกับปี 2564 แต่ราคาหุ้น AOT ไม่รอแล้ว และกำลังจะทะยานขึ้นสร้างจุดสูงสุดใหม่ในรอบปี
นักลงทุนไม่รอจนผลประกอบการฟื้น และตะลุยไล่เก็บหุ้นจน AOT ร้อนจัด วิ่งนำเป็นจ่าฝูงของหุ้นกลุ่มเปิดเมือง
