xs
xsm
sm
md
lg

CPH แชมป์หุ้นร้อน พ.ค. / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา คงไม่มีหุ้นตัวไหนที่ร้อนแรงเท่ากับหุ้นบริษัท คาสเซ่อร์พีค โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPH เพราะราคาพุ่งทะยานขึ้นกว่า 540% กลายเป็นหุ้นที่ปรับตัวขึ้นสูงสุดประจำเดือน

หลังประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2565 ราคาหุ้น CPH พุ่งทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากราคาปิดที่ 3.70 บาท เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดวันที่ 31 พฤษภาคม ราคาขึ้นมาปิดที่ 23.70 บาท โดยภายใน 13 วันทำการ ปรับตัวขึ้นชนเพดานสูงสุด 8 วันทำการ ราคาปรับขึ้นรวม 20 บาท หรือ 540.54%

ผลประกอบการไตรมาสแรก CPH มีกำไรสุทธิ 47.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนขาดทุนสุทธิ 30.31 ล้านบาท

ตั้งแต่ต้นปีราคาหุ้น CPH เคลื่อนไหวในกรอบแคบ อยู่ระดับ 3 บาทเศษถึง 4 บาท ท่ามกลางมูลค่าซื้อขายที่เบาบาง ซื้อขายวันละไม่กี่พันบาท หรือเพียงไม่กี่หมื่นบาท

แต่หลังจากประกาศผลประกอบการไตรมาสแรก เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม บรรยากาศการซื้อขายหุ้นคึกคักขึ้น มูลค่าซื้อขายขยับเป็นวันละหลายสิบล้านบาท และพุ่งขึ้นระดับร้อยล้านบาท

CPH ไม่ได้วิ่งมาม้วนเดียว โดยพักปรับฐานอยู่ช่วงหนึ่ง ระหว่างวันที่ 23-26 พฤษภาคม จากราคาปิดที่ 14.90 บาท วันที่ 20 พฤษภาคม ลงมาปิดที่ 10.90 บาท ในวันที่ 26 พฤษภาคม รวม 4 วันทำการลดลง 4 บาท

แต่วันที่ 27 พฤษภาคมเปิดฉากวิ่งรอบใหม่ ราคาพุ่งชนเพดานสูงสุด 30% และชนเพดานติดต่อ 3 วัน

โครงสร้างผู้ถือหุ้น CPH มีนายบุญชู พงษ์เฉลิม เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง ถือหุ้นในสัดส่วน 29.70% ของทุนจดทะเบียน น.ส.วณี เต็มพิทยาคม ถือหุ้นใหญ่อันดับสอง สัดส่วน 8.50% โดยมีผู้ถือหุ้นรายย่อย 451 ราย ถือหุ้นรวมกันสัดส่วน 45.94%

แม้ราคาจะปรับตัวขึ้น 540% แต่ค่าพี/อี เรโช ของ CPH มีเพียงประมาณ 9.9 เท่า ซึ่งถือว่าต่ำ และมีสัดส่วนราคาหุ้นต่อมูลค่าทางบัญชีเพียง 1.02 เท่า โดยบริษัทไม่ได้จ่ายเงินปันผลหลายปีติดต่อ เพราะขาดทุนหลายปี และเพิ่งมีกำไรในปี 2564 จำนวน 17.68 ล้านบาท

CPH ดำเนินธุรกิจผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปและธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยเป็นหุ้นขนาดเล็ก มีทุนจดทะเบียนจำนวน 40 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 10 บาท เมื่อสิ้นปี 2564 มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือมาร์เกตแคปเพียง 152 ล้านบาทเท่านั้น

แต่หลังประกาศกำไรไตรมาสแรก และราคาพุ่งทะยานขึ้นมา ทำให้มาร์เกตแคปเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 948 ล้านบาท โดยอยู่ในข่ายหุ้นที่ผลประกอบการฟื้นตัวกลับ ซึ่งจะต้องติดตามผลประกอบการในงวด 9 เดือนหลัง ซึ่งหากยังเติบโตสูงต่อเนื่องจากไตรมาสแรก

CPH คงครองแชมป์หุ้นที่ราคาพุ่งขึ้นร้อนแรงที่สุดประจำปี 2566

แม้จะเป็นหุ้นขนาดเล็ก และก่อนหน้าไม่เคยอยู่ในความสนใจของนักลงทุน แต่ CPH ก็เป็นแบบอย่างของหุ้นชั้นดี โดยผู้บริหารบริษัทฯ เคร่งครัดในหลักธรรมาภิบาล

เพราะไม่มีข้อมูลภายในรั่วไหล จากผลประกอบการกำไรไตรมาสแรกที่เติบโตก้าวกระโดด ราคาหุ้นก่อนหน้าไม่ได้ปรับตัวขึ้นดักรอรับข่าวดี ไม่มีอินไซเดอร์ย่องเข้ามาเก็บหุ้น เอาเปรียบนักลงทุนเหมือนหุ้นบริษัทจดทะเบียนนับสิบนับร้อยแห่ง

และแม้ราคาจะร้อนจัด มูลค่าซื้อขายจะเพิ่มขึ้นอย่างผิดหูผิดตาจากสภาพการซื้อขายปกติ แต่ตลาดหลักทรัพย์ไม่ใช้มาตรการกำกับการซื้อขายเพื่อดับร้อนเหมือนหุ้นร้อนทั่วไป

เพราะ CPH ขึ้นมาโดยมีปัจจัยสนับสนุน และค่าพี/อี เรโชต่ำ

แม้จะวิ่งร้อนจัด ปรับตัวขึ้นกว่า 540% แต่ถ้าประเมินว่า แนวโน้มผลประกอบการปีนี้สดใส CPH คงเป็นหุ้นที่น่าสนใจเก็บไว้ติดพอร์ต








กำลังโหลดความคิดเห็น