ตลาดหุ้นวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาเข้าสู่หุ้นขาลงเต็มรูปแบบ กระดานหุ้นแดงฉาน ดัชนีดิ่งลงหนัก หุ้นเล็กหุ้นใหญ่ระเนระนาด แต่หุ้นบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO กลับทะยานขึ้นอย่างโดดเด่น หลังประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2565 กำไรเติบโตก้าวกระโดด
EGCO ประกาศงบการเงินไตรมาสแรก หลังตลาดหุ้นปิดการซื้อขายวันพุธที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมีกำไรสุทธิ 4,115.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 603% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 585.46 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น
ราคาหุ้น EGCO พุ่งทะยานขึ้นทันทีตั้งแต่เปิดการซื้อขายวันพฤหัสบดี โดยเปิดที่ 167 บาท และขึ้นไปสูงสุดที่ 172 บาท ก่อนที่จะปิดที่ 171.50 บาท เพิ่มขึ้น 10.50 บาท หรือเพิ่มขึ้น 6.52% มูลค่าซื้อขาย 1,455.38 ล้านบาท
นับจากต้นปี ราคาหุ้น EGCO เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ระหว่าง 160 บาทถึง 180 บาท เช่นเดียวกับหุ้นโรงไฟฟ้าอีกหลายบริษัทที่หลุดจากความนิยมของนักลงทุน
อย่างไรก็ตาม แม้ราคาหุ้นจะไม่ร้อนแรง แต่ก็ประคองตัวอยู่ได้ ไม่ผันผวนตามภาวะตลาด เพียงแต่นักลงทุนที่ถือหุ้นไว้อาจรู้สึกอึดอัดที่ราคาหุ้นย่ำอยู่กับที่ แม้ภาวะตลาดหุ้นจะคึกคัก หรือดัชนีจะปรับตัวขึ้นแรงในบางช่วงก็ตาม
ผู้ถือหุ้นรายย่อย EGCO มีจำนวน 31,798 ราย ถือหุ้นรวมกันในสัดส่วน 50% ของทุนจดทะเบียน และส่วนใหญ่น่าจะซื้อเพื่อการลงทุนระยะยาว เช่นเดียวกับนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ถือหุ้นอยู่จำนวนมาก
ผลประกอบการของ EGCO ชะลอตัวต่อเนื่องหลายปี โดยปี 2561 กำไรสุทธิ 21,072.88 ล้านบาท ปี 2562 กำไรสุทธิ 13,059.24 ล้านบาท ปี 2563 กำไรสุทธิ 8,733.03 ล้านบาท ปี 2564 กำไรสุทธิ 4,103.84 ล้านบาท
แต่ไตรมาสแรกปีนี้กำไรเติบโตก้าวกระโดด โดยเพียงแต่ไตรมาสเดียวกำไรสุทธิมากกว่ากำไรในปี 2564
ค่าพี/อี เรโช EGCO อยู่ที่ประมาณ 20 เท่า อัตราเงินปันผลตอบแทน 4.04% และผลกำไรที่ก้าวกระโดดในไตรมาสแรก ทำให้หุ้นโรงไฟฟ้าแห่งนี้มีผลประกอบการเด่นที่สุดเมื่อเทียบกับหุ้นโรงไฟฟ้าด้วยกัน ซึ่งหากแนวโน้มผลประกอบการ 9 เดือนหลังยังเติบโตสูง
หุ้น EGCO คงปรับตัวสู่ขาขึ้นรอบใหม่ โดยราคาสูงสุดในรอบ 12 เดือนเคยทำไว้ที่ 187 บาท
หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าเป็นดาวรุ่งติดต่อหลายปี ติดอยู่ในกลุ่มที่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์โบรกเกอร์แทบทุกสำนักแนะนำให้ซื้อ นักลงทุนสถาบันแห่กันเช้ามาถือ และขึ้นอันดับหุ้นเก็งกำไรยอดนิยมของนักลงทุนรายย่อย
แต่ปีนี้หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าถูกนักวิเคราะห์โบรกเกอร์หลายสำนักแนะนำให้ลดน้ำหนักการลงทุน หรือให้ระบายหุ้นทิ้ง ราคาหุ้นโรงไฟฟ้าส่วนใหญ่จึงไม่คึกคัก และตกอยู่ในความซบเซาด้วยซ้ำ จะมีเพียงบางตัวที่ยังอยู่ในความสนใจ เช่น หุ้นบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF และหุ้นบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA
อย่างไรก็ตาม EA หลังจากถูกโจมตีเรื่องการบริหารงานภายในที่เข้าข่ายไม่โปร่งใส ราคาหุ้นก็ดิ่งลง และถูกซ้ำเติมด้วยภาวะตลาดที่ผันผวน ทำให้ราคาปรับตัวลงลึก
เพียงแต่ EGCO ที่เริ่มฟื้นขึ้น และดีดตัวขึ้นสวนภาวะตลาดหุ้นที่กำลังตกต่ำสุดขีด เพราะแรงหนุนจากผลประกอบการไตรมาสแรกโดยตรง โดยถือเป็นปัจจัยกระตุ้นเฉพาะตัว
EGCO กลับสู่จอเรดาร์การลงทุนแล้ว แต่ยังดำรงความเป็นหุ้นที่ซื้อเพื่อถือยาวเหมือนเดิม