บริษัทจดทะเบียนกำลังทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้ และหลายบริษัทที่ตัวเลขผลกำไรชะลอตัวลง ราคาหุ้นมักจะดิ่งลง
แต่หุ้นบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ที่ฟุบมาหลายเดือน กลับพุ่งทะยานขึ้น หลังประกาศผลกำไรไตรมาสแรกที่หดตัวลง
OR แจ้งผลประกอบการไตรมาสแรกหลังปิดการซื้อขายหุ้นเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมีกำไรสุทธิ 3,845.10 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 4,003.19 ล้านบาท
ก่อนหน้านั้น บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรก โดยมีกำไรสุทธิ 313.21 ล้านบาท ลดฮวบลงจากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,973.47 ล้านบาท
ผลที่ตามมาคือ หุ้น GPSC ถูกกระหน่ำขาย ทั้งก่อนและหลังการประกาศงบการเงินจนราคาทรุดลงอย่างรุนแรง สร้างจุดต่ำสุดใหม่ในรอบปี โดยเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมลงไปปิดที่ 59.75 บาท และแม้ตลาดจะฟื้นตัว แต่หุ้น GPSC ไม่ได้ปรับตัวขึ้นมากนัก
แตกต่างจากหุ้น OR แม้งบการเงินไตรมาสแรกจะดูไม่ดี แต่ราคาหุ้นกลับขยับตัวขึ้นอย่างคึกคักในการซื้อขายวันที่ 11 พฤษภาคม
OR เป็นหุ้นที่สร้างประวัติศาสตร์ โดยนำหุ้นเสนอขายนักลงทุนครั้งแรกในราคา 18 บาท และมีผู้จองซื้อหุ้นจำนวนมากที่สุดกว่า 3 แสนราย
หุ้นเข้าซื้อขายเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 ปรากฏว่า เคาะซื้อเคาะขายกันสนั่นหวั่นไหว โดยราคาปิดวันแรกที่ 26.50 บาท เพิ่มขึ้น 8.50 บาท หรือเพิ่มขึ้น 47.22% ทำให้ผู้จองซื้อจำนวนหลายแสนรายร่ำรวยกันถ้วนหน้า
ในช่วงแรกที่เข้าซื้อขาย OR กลายเป็นหุ้นน้องใหม่ที่ร้อนแรง ราคาปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยขยับขึ้นไปสูงสุดที่ 36.50 บาท เมื่อว้นที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564
เซียนฮง หรือนายสถาพร งามเรืองพงศ์ นักลงทุนรายใหญ่เคยเข้ามาไล่ซื้อหุ้น OR จนมีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่หลายเปอร์เซ็นต์ แต่ถืออยู่ได้ไม่นาน เซียนฮง ก็เทขายทำกำไร อำลาจากหุ้น OR จนไม่ปรากฏรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับแรก
หลังจากเซียนฮง ขายหุ้นทิ้ง OR เข้าสู่ช่วงขาลงเต็มตัว ราคาปรับฐานลงต่อเนื่อง จนลงไปต่ำสุดที่ 23.80 บาท ก่อนที่จะเคลื่อนไหวอยู่ในระดับ 24-25 บาทอยู่หลายเดือน ไม่เคยทะลุผ่านพ้น 26 บาท
นักลงทุนที่ถือหุ้น OR ไว้อึดอัด เบื่อหน่าย และบางรายยอมตัดขายขาดทุนเพราะหุ้นลุ้นไม่ขึ้น ตกอยู่ในสภาพตายซาก เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ยาวนาน
ค่าพี/อี เรโช OR อยู่ที่ 26 เท่า อัตราเงินปันผลตอบแทนประมาณ 1.82% และแม้กำไรไตรมาสแรกจะชะลอตัวลง แต่บริษัทมีหลายโครงการขยายธุรกิจเพื่อเพิ่มรายได้ ทั้งการค้าปลีกและการขยายการติดตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้ารถยนต์ไฟฟ้า ขณะที่นักลงทุนไม่ได้หวั่นไหวกับกำไรไตรมาสที่ชะลอตัว จึงไม่เกิดการทุบขายหุ้น แต่กลับมีแรงซื้อไหลเข้ามา
หุ้นที่เงียบสงบมานับตั้งแต่ต้นปีจึงเริ่มกลับมีชีวิตชีวา ราคาตีฝ่ากำแพง 26 บาทขึ้นมาได้ในการซื้อขายช่วงเช้าวันที่ 11 พฤษภาคม ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่หนาตาขึ้น และติดใน 10 อันดับหุ้นที่มีการซื้อขายสูงสุดอีกครั้ง
OR ตื่นจากหลับแล้ว นักลงทุนที่ติดหุ้นอยู่เริ่มมีความหวังครั้งใหม่ แต่รอบนี้จะมีแรงวิ่งไปได้ไกลขนาดไหนเท่านั้น