ช่วงนี้ไม่ว่าดัชนีหุ้นเขียวหรือแดง แต่จะมีหุ้นที่พุ่งทะยานขึ้นชนเพดานสูงสุด 30% วันละ 3-4 บริษัท และบริษัท เอ็นเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ NFC มักติดอยู่ใน 1 หุ้นที่ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรง
วันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา NFC ปิดที่ 2.70 บาท แต่เมื่อก้าวเข้าสู่เดือนมิถุนายน ราคาหุ้นพุ่งทะยานอย่างต่อเนื่อง โดยขึ้นชนเพดานสูงสุด 30% ถึง 5 วันทำการ และมีเพียงวันเดียวที่ติดลบ จนปิดล่าสุดวันที่ 15 มิถุนายนที่ 9.10 บาท
เพียง 10 วันทำการ NFC ปรับตัวขึ้นรวม 6.40 บาท หรือปรับตัวขึ้น 237.03% จากมูลค่าซื้อขายวันละไม่กี่หมื่นบาท ขยับขึ้นเป็นวันละหลายร้อยล้านบาท
วันที่ 10 มิถุนายน NFC ชี้แจงข้อซักถามของตลาดหลักทรัพย์ โดยระบุว่า บริษัทไม่มีพัฒนาการใดๆ ที่ส่งผลต่อราคาหุ้น และแม้ราคาจะวิ่งต่อ แต่ตลาดหลักทรัพย์ก็ไม่ได้ประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขายเพื่อดับร้อนหุ้นตัวนี้แต่อย่างใด
NFC มีปัญหาเรื่องการกระจายหุ้นสู่ผู้ถือหุ้นรายย่อยให้ได้ตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ โดยเข้าสู่ปีที่ 2 แล้ว แต่ยังไม่สามารถกระจายการถือครองหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อยตามหลักเกณฑ์ได้
โครงสร้างผู้ถือหุ้น NFC ประกอบด้วย นายณัฐภพ รัตนสุวรรณทวี ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง สัดส่วน 63.46% ของทุนจดทะเบียน บริษัท อินเตอร์ สเปค โกลบอล จำกัด ถือหุ้น 16.18% และ BENTAYGA HOLDINGS LTD ถือหุ้น 7.91% รวมกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ถือหุ้นรวมกันกว่า 90% ของทุนจดทะเบียน โดยผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวน 1,501 ราย ถือหุ้นรวมกันต่ำกว่า 10% ของทุนจดทะเบียน
การพุ่งทะยานของ NFC รอบนี้ไม่มีปัจจัยสนับสนุนที่ชัดเจน ไม่มีข่าวเชิงบวกกระตุ้น และไม่รู้ว่ามีใครอยู่เบื้องหลังการจุดพลุไล่ราคา กระตุ้นให้รายย่อยแห่เข้ามาเก็งกำไรหรือไม่
เพราะปัจจัยพื้นฐานบริษัทไม่ได้โดดเด่นนัก ค่าพี/อี ประมาณ 28 เท่า ผลประกอบการขาดทุนติดต่อหลายปี และเพิ่งมีกำไรในปี 2564 โดยมีกำไรสุทธิ 352.89 ล้านบาท เมื่อเทียบปี 2563 ขาดทุนสุทธิ 8.76 ล้านบาท ส่วนไตรมาสแรกปีนี้กำไรสุทธิ 9.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 8.92 ล้านบาท
NFC ประกอบธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายแอมโมเนีย แอมโมเนียมไฮดรอกไซด์ และกรดกำมะถัน รวมทั้งให้บริการคลังสินค้า โลจิสติกส์ และท่าเทียบเรือ โดยผลประกอบการเพิ่งจะโดดเด่นในปี 2564 แต่ยังไม่มีการจ่ายเงินปันผล ส่วนราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปีเคลื่อนไหวระหว่าง 2 บาทเศษ จนถึง 4 บาทเศษ และเป็นหุ้นที่ไม่อยู่ในความสนใจของนักลงทุนมากนัก
จนกระทั่งต้นเดือนมิถุนายน จึงเริ่มเคลื่อนไหวคึกคัก ราคาเคยปรับตัวขึ้นชนเพดานสูงสุดติดต่อ 4 วันทำการ จนกลายเป็นหุ้นร้อน ปลุกให้นักเก็งกำไรแห่กันเข้าแลกหมัดวัดดวง
NFC กำลังครองตำแหน่งแชมป์หุ้นร้อนที่สุดประจำเดือนมิถุนายน ถ้าราคาไม่แผ่วลงเสียก่อน
แต่ใครที่จะตามเข้าไปลุยต้องระมัดระวัง เพราะราคาวิ่งมาไกลมาก โดยไม่มีเหตุผลอธิบายได้ว่า NFC แรงด้วยเหตุผลใด ขณะที่ราคาเริ่มแพงแล้ว จึงมีความเสี่ยงที่จะปรับฐานลงแรง
ปริมาณหุ้นหมุนเวียนที่น้อยอาจเป็นช่องที่เจ้ามือหรือขาใหญ่เข้ามาจุดพลุลากราคา ถ้าเจ้ามือหรือขาใหญ่เวลาขายทำกำไร
นักเก็งกำไรที่ออกไม่ทัน กำหุ้นติดมือไว้ อาจเจ็บหนักจาก NFC