xs
xsm
sm
md
lg

หยุดซื้อหุ้นแพงจากฝรั่ง / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ปิดฉาก 5 เดือนแรกปีนี้ นักลงทุนต่างชาติไล่ซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นการกลับมาซื้ออย่างมีนัยสำคัญในรอบ 5 ปี ยอดซื้อหุ้นสุทธิสะสมรวม 142,016.85 ล้านบาท แต่ย่างเข้าสู่เดือนมิถุนายน ต่างชาติขายหุ้นตลอด และมีส่วนกดให้ดัชนีหุ้นไหลรูดลงอย่างหนัก

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ โบรกเกอร์แทบทุกสำนักประเมินว่า ในช่วง 7 เดือนหลังของปี 2565 ต่างชาติอาจชะลอการลงทุน หรือทยอยขายหุ้นออก เพราะอัตราดอกเบี้ยในประเทศต่ำมาก ขณะที่อัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ สูงกว่า และมีแนวโน้มที่ส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยของไทยกับสหรัฐฯ จะถ่างกันมากนัก

ดอกเบี้ยสหรัฐฯ ที่ปรับตัวขึ้นจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งตาม ส่วนค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนลง โดยล่าสุดหลุดต่ำกว่า 35 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ทำให้เงินทุนเคลื่อนย้ายออก

ในช่วงเวลาที่เงินทุนไหลเข้าต่างชาติไล่ช้อนซื้อหุ้นอย่างหนัก ตลาดหุ้นไม่ได้ปรับตัวขึ้นมากนัก ดัชนีหุ้นปีนี้สร้างจุดสูงสุดที่ระดับประมาณ 1,713 จุดเท่านั้น ปรับตัวขึ้นจากจุดปิดสิ้นปี 2564 เพียง 50 กว่าจุดเท่านั้น

ถ้าต่างชาติหยุดซื้อหุ้นคงไปต่อไม่ไหว ยิ่งหันมาเทขาย ตลาดหุ้นมีโอกาสปักหัวลง จนไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะดิ่งลงลึกขนาดไหน

และในเดือนมิถุนายนนี้ ต่างชาติเพิ่งขายหุ้นออกมาเพียง 24,113 ล้านบาท แต่ดัชนีทรุดลงไปแล้วกว่า 100 จุด

สิ้นปี 2564 ดัชนีปิดที่ 1,657จุด และประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ขึ้นไปสูงสุดที่ 1,713 จุด ก่อนปรับตัวลงมาปิดสิ้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาที่ 1,663.41 จุด โดย 5 เดือนแรกต่างชาติซื้อตลอด และคำนวณต้นทุนเงินที่ซื้อจำนวน 142,016.85 ล้านบาท น่าจะอยู่ที่ดัชนีเฉลี่ยประมาณ 1,670 จุด

ต่างชาติเริ่มขายออกในรอบนี้ตั้งแต่ดัชนี 1,660 จุด ซึ่งเป็นการขายขาดทุน จากราคาต้นทุนเฉลี่ยที่ดัชนีแถว 1,670 จุด ยิ่งดัชนีลงต่างชาติยิ่งขายขาดทุน

แต่เมื่อฝรั่งประเมินว่า การถือหุ้นต่อมีความเสี่ยงที่จะเสียหายมากขึ้น ขาดทุนทั้งส่วนต่างราคาหุ้น และถูกเติมจากขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา

ขาดทุนเท่าไหร่ต่างชาติพร้อมจะขาย เพราะกอดหุ้นไว้ต่อไปอาจย่อยยับหนักกว่าเดิม

แตกต่างจากนักลงทุนในประเทศ แม้จะประเมินว่าหุ้นลง แต่ทำใจตัดขายขาดทุนไม่ได้ แถมยังเข้าไปช้อนซื้อหุ้น หวังเฉลี่ยต้นทุนเสียอีก

เดือนมิถุนายน นักลงทุนรายย่อยรับหุ้นตลอด ซื้อไม่เลิก ไม่ว่าดัชนีจะเขียวหรือแดง หุ้นจะขึ้นหรือลง นักลงทุนรายย่อยปักหลักช้อนหุ้นเก็บลูกเดียว โดยซื้อหุ้นสุทธิรวมแล้ว 27,551.94 ล้านบาท

ผลลัพธ์จากการสวนหมัดฝรั่งคือ รายย่อยติดยอดดอย แบกหุ้นต้นทุนสูง ขาดทุนโดยถ้วนหน้า เพราะซื้อแล้วหุ้นลง

ถ้านักลงทุนรายย่อยไม่ผลีผลาม โดยอาจเริ่มทยอยซื้อตั้งแต่วันนี้ จะประหยัดต้นทุนดัชนีประมาณ 100 จุด

ขณะที่ต่างชาติคงไม่สามารถขายหุ้นราคาดีๆ หอบเงินหนีกลับบ้าน

แต่นักลงทุนรายย่อยช่วยหาบันไดไปให้ต่างชาติปีนลงจากดอย จนตัวเองเข้าไปติดดอยแทน

กูรูหุ้นฟันธงกันแล้ว 7 เดือนหลัง ต่างชาติมีแนวโน้มที่จะขายหุ้นทิ้ง ดัชนีมีสิทธิหลุด 1,500 จุด นักลงทุนรายย่อยยังจะสวนหมัดฝรั่งต่อไปหรือจะช่วยซื้อหุ้นแพงจากฝรั่งอีกหรือ

ทำไมไม่ต่อรองราคา ทำไมไม่ถอย และหันมารอคอยเก็บหุ้นถูกๆ จากฝรั่ง โอกาสที่ดัชนีจะดีดกลับไปที่ระดับ 1,600 จุด มีความเป็นไปได้น้อยกว่าการที่ดัชนีจะถอยไปที่ระดับ 1,500 จุด เพราะข่าวร้ายที่กระหน่ำใส่ตลาดมีอยู่รอบด้าน ทั้งจากปัจจัยภายนอกและภายใน และฝรั่งยังปักหลักถล่มขายหุ้นอีก

จะรับไม้ต่อ ซื้อหุ้นจากฝรั่งได้ต้องต่อรองราคา เพราะราคาวันนี้แม้จะถูก แต่ไม่น่าซื้อ

เพราะอีกไม่กี่วันข้างหน้ามีโอกาสซื้อหุ้นได้ถูกกว่าวันนี้








กำลังโหลดความคิดเห็น