คำทำนายหุ้นเดือน มิ.ย.ทรุด / สุนันท์ ศรีจันทรา

ตลาดหุ้นกลับสู่ช่วงขาลงอีกครั้ง พร้อมการขายของนักลงทุนต่างชาติ โดยคาดกันว่า การปรับฐานรอบนี้ดัชนีหุ้นอาจถอยไปที่แนวรับระดับ 1,600 จุด

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ โบรกเกอร์หลายสำนักส่งสัญญาณเตือนภัยมาก่อนหน้าแล้ว ตลาดหุ้นเดือนมิถุนายนมีแนวโน้มซบเซา เนื่องจากแรงกดดันปัจจัยลบรอบด้าน ทั้งสงครามรัสเซียกับยูเครน ภาวะเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นทั่วโลก แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และเศรษฐกิจที่จะเกิดการถดถอย

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ อาจเกิดการปรับฐานระลอกใหญ่ กระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก และอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างระหว่างดอกเบี้ยในประเทศกับดอกเบี้ยสหรัฐฯ อาจทำให้เงินทุนไหลออก ซึ่งหมายถึงการเทขายหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ และต่างชาติเริ่มขายหุ้นตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว

ข่าวดีที่จะช่วยกระตุ้นตลาดขาดแคลน ขณะที่ข่าวร้ายไหลทะลักเข้ามาต่อเนื่อง โดยการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งพุ่งขึ้น 7.10% สูงสุดในรอบ 13 ปี ถือเป็นปัจจัยลบที่ซ้ำเติมตลาดหุ้น

ดัชนีหุ้นวันอังคารที่ 7 มิถุนายน ทรุดฮวบลง -14.16 จุด ปิดที่ 1,631.92 จุด มูลค่าซื้อขาย 62,744 ล้านบาท โดยกองทุนในประเทศและต่างชาติเป็นผู้ขาย ขณะที่นักลงทุนรายย่อยเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ และซื้อติดต่อกันหลายวันแล้ว

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กำลังย่างเข้าสู่ช่วงขาลง เพราะถูกผลกระทบจากเงินเฟ้อจนต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ย พร้อมกับความกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอย และจะเป็นชนวนให้ตลาดหุ้นทั่วโลกเกิดความปั่นป่วน

โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ไม่แนะนำให้นักลงทุนเร่งรีบเก็บหุ้น เพราะมองว่าหุ้นมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวลง และจะลงไปแตะระดับ 1,600 จุด หรือลงไปถึงระดับ 1,580 จุดได้

คำแนะนำการลงทุนในช่วงสั้นคือ ชะลอการซื้อขาย ทยอยขายหุ้นออก และถือเงินสดไว้ เพื่อรอคอยจังหวะเก็บหุ้นในราคาที่ต่ำกว่า เมื่อดัชนีถอยลงมาแถว 1,600 จุด

ไม่มีโบรกเกอร์ไหนมองว่าตลาดหุ้นเดือนมิถุนายนจะมีความคึกคักสดใส มีแต่การแสดงความกังวลว่าจะซบเซา และความเสี่ยงในการปรับฐานลง พร้อมกับการลดน้ำหนักการลงทุนของต่างชาติ แตกต่างจาก 5 เดือนแรกปีนี้ที่ซื้อหุ้นสุทธิกว่า 1.4 แสนล้านบาท

ถ้า 7 เดือนหลังต่างชาติทยอยขายหุ้น ทิศทางตลาดหุ้นคงน่าห่วง เพราะแม้ต่างชาติซื้อหนักๆ หุ้นยังวิ่งไปไม่ได้ไกลเท่าไหร่

มูลค่าซื้อขายหุ้นลดฮวบลงมาพักหนึ่งแล้ว จากที่เคยเคาะซื้อขายกันสนั่นหวั่นไหววันละประมาณ 1 แสนล้านบาท ช่วงหลังซื้อขายกันเพียงวันละ 5-6 หมื่นล้านบาทเท่านั้น เพราะนักลงทุนเริ่มชะลอการซื้อขาย โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติ

นับจากต้นปี นักลงทุนรายย่อยจับจังหวะการเข้าออกได้ดี โดยเมื่อหุ้นขึ้นจะชิงขายทำกำไร เมื่อหุ้นตกจะกลับเข้าไปช้อนซื้อ เพียงแต่เดือนมิถุนายนอาจตัดสินใจเร็วไปหน่อย เพราะช้อนซื้อท่ามกลางแนวโน้มตลาดขาลง จนซื้อของแพงติดมือ

อย่างไรก็ตาม ยังไม่ช้าเกินไปที่จะทบทวนกลยุทธ์ โดยรอประเมินสถานการณ์ตลาดหุ้นที่แน่ชัด รอคอยจังหวะในการกลับเข้าซื้อหุ้นในราคาต้นทุนที่ต่ำกว่า

เพราะคำทำนายของโบรกเกอร์ที่มองว่า เดือนนี้อาจได้เห็นดัชนีลงมาแตะที่ 1,600 จุด เป็นคำทำนายที่ไม่ไกลจากความเป็นจริงแล้ว