สั่งโบรกเกอร์สยบหุ้นร้อน (จบ) / สุนันท์ ศรีจันทรา

หุ้นบริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XPG กำลังยืนตระหง่าน ท้าทายตลาดหลักทรัพย์ เพราะแม้จะถูกประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขายแล้วถึง 9 ครั้งในปีนี้ แต่ราคาหุ้นยังถูกลากพุ่งทะยานไม่หยุดยั้ง จนตลาดหลักทรัพย์ต้องออกคำเตือนนักลงทุนด่วน

หุ้นบริษัท จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JTS หุ้นร้อนอีกตัวที่วิ่งตีคู่มากับ XPG สยบต่อการประกาศเตือนนักลงทุนของตลาดหลักทรัพย์ไปแล้ว โดยราคาปรับตัวลงหลายวันติดต่อ แต่หุ้น XPG ไม่แสดงความยำเกรงตลาดหลักทรัพย์แต่อย่างใด

หลังปิดการซื้อขายภาคเช้าวันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม ตลาดหลักทรัพย์ออกประกาศด่วน เตือนนักลงทุนให้ระมัดระวังการซื้อขายหุ้น XPG เนื่องจากสภาพการซื้อขายเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยมีค่าพี/อี เรโชถึง 324.85 เท่า แม้จะอยู่ในมาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 3 ก็ตาม

นอกจากนั้น ยังกำชับให้บริษัทสมาชิกหรือบริษัทโบรกเกอร์กำกับดูแลการซื้อขายหุ้น XPG อย่างใกล้ชิดและเคร่งครัด เพื่อป้องกันการส่งคำสั่งซื้อขายที่ไม่เหมาะสม หรือไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

แต่คำเตือนจากตลาดหลักทรัพย์ไม่ได้ทำให้ราคาหุ้น XPG ลดความร้อนแรงลง

วันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา หุ้น XPG ขึ้นเครื่องหมาย “XR” โดยผู้ซื้อไม่มีสิทธิจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน ซึ่งบริษัทจัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 2 หุ้นใหม่ ในราคาหุ้นละ 50 สตางค์

ราคาหุ้น XPG วันที่ 23 กรกฎาคมก่อนขึ้นเครื่องหมาย “XR” ปิดที่ 7.90 บาท คำนวณจากสิทธิการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน ราคาหุ้น XPG ในวันที่ 27 กรกฎาคม จะปรับฐานลงมาที่ 2.96 บาท

แต่มีการลากราคาหุ้นทันทีที่เปิดการซื้อขายในวันที่ 27 กรกฎาคม โดยเปิดที่ราคา 3.18 บาท และมีแรงซื้อไล่ราคาขึ้นไปจนปิดที่ 3.86 บาท ซึ่งเป็นราคาสูงสุดติดเพดาน 30%

ส่วนการซื้อขายวันที่ 29 กรกฎาคม ยังมีแรงซื้อลากราคาหุ้นเข้ามาทันที โดยเปิดที่ราคา 4.52 บาท ก่อนจะขึ้นไปสูงสุดที่ 5 บาท ซึ่งเป็นราคาติดเพดานสูงสุด 30% ก่อนตลาดหลักทรัพย์ออกประกาศด่วนเตือนนักลงทุน

การซื้อขายภาคบ่าย แม้ราคาหุ้นจะอ่อนตัวลง โดยมีแรงเทขายกำไร ทำให้ราคาลงไปต่ำสุดที่ 4.12 บาท แต่ช่วงปลายตลาดมีแรงซื้อโหมเข้ามาอีกครั้ง ลากราคาขึ้นไปปิดที่ 4.46 บาท เพิ่มขึ้น 60 สตางค์ หรือเพิ่มขึ้น 15.54% มูลค่าการซื้อขาย 816.01 ล้านบาท

หุ้นร้อนส่วนใหญ่เมื่อถูกประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขายมักจะยอมสยบ ราคาอ่อนตัวลง แต่ XPG ของนายระเฑียร ศรีมงคล ประธานกรรมการบริษัทฯ หัวดื้อที่สุด เพราะลากหุ้นกันไม่เลิก

ลากหุ้นโดยไม่ยำเกรงใคร

การหามาตรการใหม่เพื่อสยบหุ้นร้อนเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะมาตรการที่มีอยู่ใช้ไม่ได้ผลกับหุ้นร้อน เช่น XPG

ถ้ามีหุ้นที่ก่อพฤติกรรมเลียนแบบ XPG โดยราคาหุ้นถูกลากขึ้นอย่างร้อนแรงไร้เหตุผลจำนวนมาก ตลาดหุ้นจะแปรสภาพเป็นบ่อนการพนันดีๆ นี่แหละ

การกำราบหุ้นร้อนที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายการปั่นหุ้นไม่ใช่เรื่องยาก เพราะตลาดหลักทรัพย์มีอำนาจในการกำกับการซื้อขายอยู่เต็มมือ

ขั้นแรกอาจขอความร่วมมือโบรกเกอร์ให้สอดส่องพฤติกรรมของลูกค้า โดยคำสั่งซื้อขายหุ้นที่ไม่ปกติ และเข้าข่ายการสร้างราคาหุ้น โบรกเกอร์อาจพูดคุยกับลูกค้าเพื่อยกเลิกคำสั่งหรือหยุดพฤติกรรมสร้างราคาหุ้น

โบรกเกอร์ทุกรายรู้พฤติกรรมของลูกค้าตัวเองดีอยู่แล้ว เพียงแต่จะหลิ่วตา เปิดโอกาส หรือสมคบคิดกับลูกค้าในการทำผิดหรือไม่เท่านั้น

โบรกเกอร์รายใดที่ไม่ให้ความร่วมมือ ตลาดหลักทรัพย์อาจขึ้นบัญชีดำ และหากพบการปั่นหุ้นก็อาจรวบรวมข้อมูลโบรกเกอร์ที่เปิดโอกาสให้แก๊งปั่นหุ้นส่งคำสั่งซื้อขาย รายงานให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พิจารณาความผิด

เป็นเรื่องที่แปลกแต่จริง ก.ล.ต. มีการกล่าวโทษหุ้นปั่นหลายสิบคดี แต่กลับไม่เคยมีโบรกเกอร์ตกเป็นผู้ต้องหาร่วม ทั้งที่โบรกเกอร์เปิดประตูบ้านให้แก๊งปั่นหุ้น

นอกจากนั้น ตลาดหลักทรัพย์ยังสยบหุ้นร้อนได้ด้วยตัวเอง โดยหุ้นที่ราคาเคลื่อนไหวผิดปกติ เมื่อเพิ่มความเข้มข้นมาตรการกำกับการซื้อขายทั้ง 3 ระดับแล้ว และออกประกาศเตือนนักลงทุนแล้ว แต่ยังไม่อาจหยุดความร้อนแรงของราคา

ตลาดหลักทรัพย์อาจประกาศเข้าตรวจสอบการซื้อขายหุ้นร้อน และขอให้โบรกเกอร์รายงานการซื้อขายหุ้นของลูกค้า เพียงเท่านี้ จะสยบหุ้นร้อนได้ทันที

เพราะนักลงทุนรายย่อยจะแห่เทขายหุ้นทิ้ง ขณะที่ขาใหญ่หรือเจ้ามือที่กำลังลากราคาหุ้น จะหยุดพฤติกรรม

ตลาดหลักทรัพย์มีอำนาจจัดการหุ้นร้อนอยู่ในมือ แต่ไม่รู้ว่ากลัวโบรกเกอร์ หรือเกรงใจบริษัทจดทะเบียน จึงไม่กล้าใช้อำนาจ

และปล่อยแก๊งมิจฉาชีพในชุดสูทเปิดปฏิบัติการลากหุ้น ล่อนักลงทุนรายย่อยไปเป็นเหยื่ออย่างโจ๋งครึ่ม

ปีนี้แก๊งมิจฉาชีพใส่สูทในตลาดหลักทรัพย์ อาละวาดหนักจริงๆ ปั่นหุ้นกันสนุกสนานนับร้อยตัว