แม้ยังไม่สิ้นสุดปี 2564 แต่หุ้นบริษัท จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JTS ได้จองตำแหน่งครองความเป็นหุ้นร้อนที่สุดแห่งปีไปเป็นที่เรียบร้อย และไม่มีใครสามารถสยบความร้อนของหุ้นตัวนี้ได้เสียด้วย
JTS กลายเป็นหุ้นลูกเต๋า ซึ่งเจ้ามือจะปั่นให้ออกสูงหรือต่ำได้ตามใจชอบ จะลากให้ขึ้นเท่าไหร่แล้วแต่ความพอใจ โดยไม่ต้องสนใจสถานการณ์ตลาดหุ้นโดยรวมว่าเป็นอย่างไร จะซบเซาเงียบเหงาหรือคึกคัก
หุ้นตัวนี้ปลุกกระแสความสนใจของนักลงทุนทั้งตลาดอีกครั้ง เมื่อวันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยตลาดหุ้นจะทรุดหนัก ดัชนีหุ้นรูดลงกว่า 18 จุด แต่ JTS กลับพุ่งขึ้นแรง ราคาปิดที่ 58.25 บาท เพิ่มขึ้น 10 บาท หรือเพิ่มขึ้น 20.73% มูลค่าซื้อขาย 190.74 ล้านบาท
คำนวณค่าพี/อี เรโช ล่าสุด ประมาณ 890 เท่าเข้าไปแล้ว
ตลาดหลักทรัพย์พยายามสยบหุ้น JTS มาตลอด นับตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หรือช่วงเริ่มต้นในการลากราคาหุ้น โดยประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขาย 5 ครั้ง และครั้งล่าสุด เป็นระดับ 2 ต้องซื้อหุ้นด้วยเงินสดและห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย มีผลบังคับใช้ระหว่างวันที่ 20 กรกฎาคม ถึง 9 สิงหาคมนี้
แต่ก็มีการลากราคาหุ้นขึ้นมาเย้ยมาตรการกำกับการซื้อขาย
ราคาหุ้น JTS ปิดเมื่อสิ้นปี 2563 ที่ 1.93 บาท และตลอดเดือนมกราคม 2564 เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ โดยวันที่ 3 กุมภาพันธ์ราคาหุ้นปิดที่ 1.92 บาท หลังจากนั้นราคาดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเมื่อเทียบกับจุดปิดล่าสุดที่ 58.25 บาท ในช่วงเวลาเพียง 5 เดือนเศษ ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นรวม 56.33 บาท หรือปรับตัวขึ้น 2,933.85%
ไม่มีโบรกเกอร์ไหนให้คำอธิบายได้ว่าราคาหุ้น JTS ขึ้นมาด้วยสาเหตุใด และไม่มีโบรกเกอร์ใดแนะนำให้นักลงทุนเข้าไปซื้อขายหุ้นตัวนี้เหมือนกัน
ส่วนนักลงทุนทั่วไปคงรู้ดีว่า ต้องหลีกเลี่ยงหุ้นตัวนี้ และไม่มีวันเข้าไปเสี่ยงซื้อขาย เว้นแต่จะมีคนเอาปืนมาจี้หัวให้ซื้อเท่านั้น
JTS เป็นหุ้นในกลุ่มจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ซึ่งถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 32.80% ของทุนจดทะเบียน และบริษัท โมโนเน็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MONO ซึ่งนายพิชญ์ โพธารามิก ถือหุ้นใหญ่ทั้ง 2 บริษัท
นายพิชญ์ เคยถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ลงโทษปรับเมื่อเดือนกันยายน 2562 รวมวงเงิน 59.10 ล้านบาท ในความผิดใช้ข้อมูลภายในแสวงหาประโยชน์จากการซื้อขายหุ้น JTS
ต่อมา เดือนตุลาคม 2562 ก.ล.ต.ประกาศลงโทษปรับนายพิชญ์ และพวกรวม 4 คน วงเงิน 160 ล้านบาท ในความผิดปั่นหุ้น JAS และ MONO
ความร้อนแรงของหุ้น JTS ตลอด 5 เดือนเศษที่ผ่านมา ซึ่งไม่มีเหตุผลทางด้านปัจจัยพื้นฐานสนับสนุน จึงถูกจับตามองว่าอาจจะเกิดการปั่นราคาหุ้น ซ้ำร้อยหุ้น JAS และ MONO
แต่คำถามคือ จะปั่น JTS ไปเพื่อสวรรค์วิมานอะไร ในเมื่อนักลงทุนรายย่อยไม่น่าจะตามแห่เข้าไปเก็งกำไรแล้ว
เพราะราคาที่ถูกลากขึ้นมาไกลสุดกู่ สูงเฉียดยอดดอย คงจะมีแมลงเม่าจำนวนน้อยมากที่จะเข้าไปเสี่ยงกับ JTS เพราะถ้าพลาดถึงขั้นสิ้นชีวิต
จึงหาเหตุผลไม่ได้ว่า กลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังความร้อนแรงของ JTS มีเจตนารมณ์ใด และจะเป็นไปได้หรือไม่ว่า
ปฏิบัติการปั่นราคา JTS ที่เกิดขึ้นขณะนี้ เป็นการส่งสารแสดงความท้าทายตลาดหลักทรัพย์ และ ก.ล.ต.
จะลากราคา JTS ให้โจ๋งครึ่มเสียอย่าง ใครจะทำไม
คำถามคือ ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์จะจัดการอย่างไรกับการส่งสารท้าทายจากผู้ที่อยู่เบื้องหลังความร้อนแรงของหุ้น JTS