ครองแชมป์หุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดครึ่งปีแรก ทิ้งห่างหุ้นตัวอื่นชนิดแทบไม่เห็นฝุ่น สำหรับหุ้น บริษัท จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JTS ด้วยผลตอบแทน 1,583.93% ทั้งที่ไม่มีปัจจัยสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรม และถูกตลาดหลักทรัพย์สั่งใช้มาตรการกำกับการซื้อขายนับครั้งไม่ถ้วนก็ตาม
วันที่ 30 ธันวาคม 2563 หรือวันสุดท้ายของการซื้อขายปีที่ผ่านมา JTS ปิดการซื้อขายที่ราคา 1.93 บาท และย่างเข้าสู่ปี 2564 การซื้อขายตลอดเดือนมกราคม JTS ยังขึ้นลงในกรอบ ราคาทรงตัวในระดับต่ำกว่า 2 บาท แต่หลังจากต้นเดือนกุมภาพันธ์ จึงเริ่มมีแรงซื้อเข้ามาลากราคา จนราคาพุ่งทะยานอย่างต่อเนื่องมา 4 เดือนเต็ม จนวันที่ 30 มิถุนายน ราคาพุ่งขึ้นมาปิดที่ 32.50 บาท
ครึ่งปีแรก JTS จึงครองแชมป์หุ้นร้อนที่สุด ราคาดีดตัวจาก 1.93 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 ขึ้นมาที่ 32.50 บาท ในวันปิดการซื้อขายครึ่งปีแรก เพิ่มขึ้น 30.57 บาท หรือเพิ่มขึ้น 1,583.93%
ข่าวดีที่กระตุ้นราคาหุ้น JTS ในช่วง 6 เดือนแรกมีเพียงประการเดียวคือ ผลประกอบการปี 2563 ซึ่งแจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์ค่ำวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา โดยมีผลกำไรเติบโตก้าวกระโดด จากกำไรสุทธิ 4.14 ล้านบาทในปี 2562 พุ่งขึ้นเป็น 44.17 ล้านบาทในปี 2563
หลังประกาศผลประกอบการปี 2563 ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นขานรับ และขึ้นติดต่อกัน 14 วันทำการ จากราคา 3.16 บาท ในวันที่ 4 มีนาคม ขึ้นมาปิดที่ 14.50 บาทในวันที่ 23 มีนาคม เพิ่มขึ้นรวม 11.34 บาท หรือเพิ่มขึ้น 358.86%
แม้ว่าผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้ของ JTS ซึ่งแจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์ช่วงเย็นวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมาจะไม่โดดเด่นนัก โดยมีกำไรสุทธิ 10.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 8.46 ล้านบาท แต่ราคาหุ้นไม่ได้อ่อนตัวลงแต่อย่างใด
การซื้อขายหุ้น JTS ที่ผิดปกติ ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ต้องประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขายมาตลอด โดยครั้งแรกประกาศให้เป็นหุ้นเข้าข่ายการใช้มาตรการกำกับการซื้อขายเมื่อวันที่ 22 มีนาคม ครั้งที่สอง วันที่ 12 เมษายน และครั้งที่สาม วันที่ 30 เมษายน
แต่มาตรการดับหุ้นร้อนของตลาดหลักทรัพย์ใช้ไม่ได้ผลกับ JTS ซึ่งยังคงถูกลากขึ้นสู่ดอยที่สูงชัน จนค่าพี/อี เรโช พุ่งขึ้นไปประมาณ 520 เท่าแล้ว ณ ราคาปิดเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมที่ราคา 33.75 บาท และเป็นหุ้นที่มีค่าพี/อี เรโช สูงที่สุดอีกตัวหนึ่ง
โครงสร้างผู้ถือหุ้น JTS ประกอบด้วย บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง ในสัดส่วน 32.80% ของทุนจดทะเบียน โดยมีผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวน 1,483 ราย ถือหุ้นรวมกันในสัดส่วน 38.63% ของทุนจดทะเบียน
นายพิชญ์ โพธารามิก เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน JAS ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ JTS โดยในสมัยที่นายพิชญ์ เป็นผู้บริหารกลุ่ม JAS ถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ลงโทษปรับ คดีปั่นหุ้น JAS และหุ้นบริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ MONO พร้อมพวกรวม 4 ราย ต้องชำระค่าปรับวงเงิน 160 ล้านบาท
แม้ JTS จะไม่มีประวัติถูกกล่าวโทษเป็นหุ้นปั่น แต่ราคาหุ้นที่ถูกลากขึ้นมาอย่างร้อนแรงตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา ทำให้เกิดคำถามว่า
ใครอยู่เบื้องหลังการพุ่งทะยานอย่างบ้าคลั่งของ JTS และจะลากราคาหุ้นไปสิ้นสุดที่จุดใด
นักเก็งกำไรที่ไม่กลัวตายอาจไม่หวั่นไหวในจุดจบของ JTS ในรอบนี้ แต่นักลงทุนทั่วไป คงถอยห่างจากหุ้นตัวนี้ไปแล้ว
เพราะค่าพี/อี ที่พุ่งทะลุกว่า 500 เท่า JTS พร้อมปักหัวดิ่งลงเหวได้ตลอดเวลาถ้าเจ้ามือทิ้งหุ้น
