ตลาดหุ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทรุดฮวบลงอีกครั้ง โดยนักลงทุนเทขายหุ้นหลังจากข่าวตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในประเทศ จนเกิดความวิตกกังวลการแพร่ระบาดรอบใหม่ และยังมีปัจจัยลบจากการเคลื่อนไหวของม็อบปลดแอกที่กำลังขยายตัวในวงกว้างซ้ำเติมอีก
ปิดการซื้อขายหุ้นเมื่อวันพุธ ดัชนีหุ้นปิดที่ระดับ 1,308.67 จุด ลดลง 21.44 จุด โดยนักลงทุนต่างชาติถล่มขายหุ้นสุทธิ 4,026.398 ล้านบาท
ตั้งแต่ต้นปีต่างชาติทยอยขายหุ้นออกมาต่อเนื่อง จึงไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจสำหรับการขายของต่างชาติ แม้เมื่อวันพุธจะขายกว่า 4 พันล้านบาท ฉุดให้ดัชนีหุ้นปักหัวลงแรงก็ตาม
แต่ปัจจัยที่กดให้หุ้นทรุดหนัก น่าจะเกิดจากการตรวจพบผู้ติดเชื้อ “โควิด-19” รายใหม่ สร้างความตื่นตระหนก และความหวั่นไหวในการกลับมาของการแพร่ระบาดรอบ 2
นอกจากนั้น สถานการณ์การเมืองภายในประเทศก็ร้อนระอุ เพราะม็อบประชาชนปลดแอกปะทุขึ้นทั่วประเทศ และเตรียมนัดชุมนุมใหญ่ในกรุงเทพฯ ทำให้นักลงทุนกังวลผลกระทบ หากเกิดเหตุการณ์รุนแรง
ข่าวดีๆ ขาดแคลนอยู่แล้ว แต่ข่าวร้ายทะลักไม่หยุด สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนยังต้องจับตามอง นักลงทุนต่างชาติก็ขายไม่เลิก สถานการณ์ "โควิด-19" ยังไม่น่าไว้วางใจ
โดยเฉพาะเมื่อตรวจพบผู้ติดเชื้อรายล่าสุด และม็อบปลดแอกก็รุกคืบข้อเรียกร้องหนักขึ้นทุกที
ทิศทางการลงทุนหุ้นจึงไม่น่าไว้วางใจ และแม้ว่า นักวิเคราะห์หรือกูรูหุ้นส่วนใหญ่จะประเมินว่า ตลาดหุ้นครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก แต่ไม่ได้หมายความว่า หุ้นจะฟื้น ดัชนีหุ้นจะดีดกลับ หรือจะไม่เกิดความผันผวนรุนแรงขึ้นอีก
ยิ่งสถานการณ์การเมืองคุกรุ่น ม็อบนักเรียนนักศึกษาเริ่มจุดติด แถม “โควิด-19” ทำท่าจะกลับมาระบาดรอบ 2 นักลงทุนจึงขวัญเสีย ชะลอการลงทุน หรือชิงขายลดความเสี่ยงจากการปรับตัวลงรอบใหม่
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์โบรกเกอร์หลายสำนักมองกันแล้ว แนวรับดัชนีหุ้นระดับ 1,300 จุดอาจรับไม่อยู่ และไม่รู้ว่าหุ้นจะถอยหลังลงไปต่ำสุดในจุดใด จึงส่งสัญญาณเตือนนักลงทุนให้ระมัดระวังความเสี่ยง และหลีกเลี่ยงเพิ่มน้ำหนักการลงทุน อย่าเร่งรีบช้อนซื้อหุ้น
ดัชนีหุ้นทรุดลงมาแล้วประมาณ 150 จุด จากจุดสูงสุด 1,450 จุดหลังวิกฤตโควิด-19 เนื่องจากไม่มีปัจจัยสนับสนุน ขณะที่ข่าวร้ายกระหน่ำไม่ขาดสาย และยังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 มีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน จนโบรกเกอร์บางแห่งต้องปรับลดประมาณการเป้าหมายดัชนีหุ้นปลายปีอีกครั้ง
โดยคาดว่าจะขยับไปแตะที่ระดับ 1,400 จุดเท่านั้น
ตลาดหุ้นครึ่งปีหลังคงไม่สดใสนัก เพราะนอกเหนือผลกระทบ "โควิด-19" แล้ว ยังมีสถานการณ์การเมืองที่จะร้อนระอุขึ้น สั่นคลอนเสถียรภาพรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
จนนักลงทุนจะต้องหยุดกิจกรรมในตลาดหุ้น เพื่อเฝ้าดูการเมืองในยุคการกลับมาของ “ม็อบ” ต่อต้านรัฐบาล
นักลงทุนทำใจกันแล้ว รอบนี้ดัชนีหุ้นหลุด 1,300 จุดแน่ๆ แต่จะหลุดลงไปลึกขนาดไหน ต้องประเมินสถานการณ์ “โควิด-19” รอบ 2 และประเมินกระแสม็อบเด็กกันวันต่อวัน
ลงทุนในตลาดหุ้นช่วงนี้ได้ไม่คุมเสี่ยง จึงควรเว้นวรรค พักการลงทุนชั่วคราว หันเหความสนใจไปที่ม็อบเด็กๆ ที่กำลังเข้มข้น ตื่นเต้นเร้าใจดีกว่า