หุ้นบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ปักหัวลงทันทีเมื่อวันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) มีมติเห็นชอบ ให้บริษัทการบินไทยยื่นฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลาย โดยเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติ
ราคาหุ้นการบินไทยเมื่อวันจันทร์ทรุดตัวลงตั้งแต่เปิดการซื้อขายเมื่อวันจันทร์ ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 4.10 บาท ลดลง 72 สตางค์ หรือลดลง 14.94% ซึ่งเป็นราคาต่ำสุดติดพื้นตามที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนด
นักลงทุนคงประเมินชะตากรรมของหุ้น THAI กันทะลุปรุโปร่งแล้ว เพราะหลังจากนี้อนาคตคงมืดมน จนกว่าจะผ่านกระบวนการฟื้นฟู ซึ่งต้องใช้เวลาหลายปี ขณะที่ผู้ถือหุ้นและเจ้าหนี้ ต้องก้มหน้ายอมรับความเสียหาย เพราะจะมีการลดทุนและลดหนี้ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาพื้นฐานของการฟื้นฟูกิจการ
สำหรับขั้นตอนการฟื้นฟูกิจการ ผู้บริหาร THAI หรือเจ้าหนี้สามารถยืนเรื่องต่อศาลล้มละลาย เพื่อขอฟื้นฟูกิจการ โดยจะมีการจัดตั้งผู้จัดทำแผน และยื่นต่อศาลล้มละลาย ซึ่งหากศาลเห็นว่า บริษัทฯ มีหนี้สินล้นพ้นตัว จะมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ ซึ่งเจ้าหนี้จะประชุมพิจารณาเพื่อลงมติเสนอบริหารฟื้นฟู และเจ้าหนี้จะคัดเลือกตัวแทนเข้ามาร่วมเป็นคณะกรรมการผู้บริหารแผนฟื้นฟู
การฟื้นฟูกิจการกำหนดภายในเวลา 5 ปี ส่วนหุ้น THAI จะซื้อขายต่อไปตามปกติ จนเมื่อศาลล้มละลายพิจารณาเห็นว่า บริษัทมีหนี้สินล้นพ้นตัว ซึ่งหมายถึงมีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน ทำให้ขาดคุณสมบัติการเป็นบริษัทจดทะเบียน และจะต้องย้ายเข้ากลุ่มฟื้นฟูการดำเนินงาน
ส่วนตลาดหลักทรัพย์จะขึ้นเครื่องหมาย “เอสพี” พักการซื้อขายหุ้น เมื่อปรากฏว่า บริษัทมีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้น หลังแจ้งงบการเงินประจำปี 2563 หรือต้นปีหน้า เว้นแต่จะมีเงื่อนไขอื่นที่จะถูกแขวนป้าย “เอสพี” ก่อน
ส่วนการที่ THAI ขอผ่อนผันเลื่อนการส่งงบการเงินไตรมาสแรกปีนี้ออกไป โดยอ้างผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น อาจเป็นเพราะการจัดทำงบการเงินตั้งปี 2563 จะ ต้องจัดทำตามมาตรฐานบัญชีใหม่ ซึ่งจะทำให้ยอดหนี้สินของบริษัทพุ่งขึ้นอีกประมาณ 1 แสนล้านบาท เพราะต้องบันทึกค่าเช่าเครื่องบินรวมเป็นส่วนหนึ่งของหนี้สิน จากเดิมไม่ต้องบันทึก
หนี้สินที่ปรากฏในบัญชีล่าสุด 2.44 แสนล้านบาท เป็นตัวเลขที่น่าตกใจแล้ว ถ้าต้องบันทึกบัญชีตามมาตรฐานบัญชีใหม่ ทำให้ยอดหนี้สินพุ่งเป็นกว่า 3 แสนล้านบาท ผู้ถือหุ้นกว่า 1 แสนรายคงหัวใจวายกัน
ฐานะของ THAI เป็นที่รับรู้กันแล้ว ภาระหนี้สินท่วมท้นจนไปไม่รอด และรัฐบาลอุ้มต่อไม่ไหว จึงต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ เพื่อล้างไพ่ใหม่ ล้างหนี้ และผ่าตัดองค์กร รวมทั้งการแปรรูปบริษัทเอกชน โดยผู้ถือหุ้น ซึ่งได้รับความเสียหายจากราคาหุ้นที่ดิ่งลงแล้ว ยังจะได้รับผลกระทบจากการลดทุนด้วย
ราคาหุ้น THAI ที่รูดลงติดฟลอร์ เพราะนักลงทุนวิเคราะห์ชะตากรรมของหุ้นสายการบินแห่งนี้แจ่มแจ้ง แนวโน้มระยะสั้น อยู่ในช่วงขาลงเต็มตัว ไม่มีข่าวดีหนุน ไม่มีประเด็นให้เก็งกำไร จึงต้องชิงการขายหุ้น เพื่อลดความเสียหาย
ไม่อาจคาดหมายว่า ราคาหุ้น THAI จะทรุดลงลึกขนาดไหน และจุดต่ำสุดรอบนี้อยู่ที่เท่าระดับใด แต่นักเก็งกำไรกำลังเผ่นหนีกันแล้ว
