เชื่อกันมาโดยตลอดว่า นักลงทุนต่างชาติ มีบทบาทสำคัญในการชี้นำทิศทางตลาดหุ้น และสถิติข้อมูลในอดีต เป็นสิ่งยืนยันในความเชื่อ โดยเมื่อต่างชาติกลับเข้ามาซื้อ หุ้นมักจะขึ้น เมื่อต่างชาติเทขาย หุ้นมักจะลง แต่สถานการณ์ปัจจุบันกำลังเปลี่ยนไป เพราะแม้ต่างชาติจะขาย หุ้นยังสามารถปรับตัวขึ้นได้ และรอบนี้ดัชนีหุ้นขึ้นมาแล้วกว่า 300 จุด ทั้งที่ต่างชาติขายไม่ยั้งมือก็ตาม
นักลงทุนต่างชาติเริ่มเข้ามามีบทบาทในตลาดหุ้นไทยอย่างจริงจังหลังปี 2530 และทำให้นักลงทุนในประเทศ ต้องติดตามความเคลื่อนไหวของต่างชาติ เพราะถือเป็นอีกปัจจัยในการชี้นำแนวโน้มตลาดหุ้น รวมทั้งหุ้นรายตัว
นักลงทุนบางคนต้องเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ที่มีลูกค้าต่างชาติ โดยหวังจะได้ข้อมูลการซื้อขายของต่างชาติ และหลายคนอาศัยความเคลื่อนไหวของต่างชาติเป็นองค์ประกอบในการกำหนดกลยุทธ์การลงทุน โดยจะซื้อและขายตามต่างชาติ
“นอมินี” ไว้ที่ฮ่องกง อำพรางว่าเป็นนักลงทุนต่างชาติ และส่งผ่านคำสั่งซื้อหุ้นกลับเข้ามา เพื่อจุดพลุไล่ราคา และปล่อยข่าวว่าต่างชาติเข้ามาไล่ซื้อหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง เมื่อนักลงทุนรายย่อยตามแห่เก็งกำไร จะขายทำกำไร
การเปิดบัญชีในต่างประเทศ และอำพรางว่า นักลงทุนต่างชาติเข้ามาไล่ซื้อหุ้น เพื่อสร้างราคาหุ้นนั้น เป็นที่มาของคำว่า “ฝรั่งหัวดำ” ในสมัยนั้น
อิทธิพลของต่างชาติในตลาดหุ้นไทยเกิดขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงปี 2536 โดยเฉพาะช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม โดยปลายเดือนกันยายน 2536 ดัชนีหุ้นยืนอยู่ระดับประมาณ 900 จุด แต่ย่างเข้าสู่เดือนตุลาคม ดัชนีหุ้นพุ่งทะยานขึ้น พร้อมกับข่าวต่างชาติยกทัพใหญ่เข้ามาลุยซื้อหุ้นและซื้อต่อเนื่อง จนดัชนีหุ้นพุ่งขึ้นเกือบ 100% ภายในเวลา 3 เดือน
โดยวันที่ 4 มกราคม 2537 หรือเปิดตลาดวันแรกรับศักราชใหม่ ดัชนีหุ้นพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 1,753 จุด ก่อนจะรูดลงอย่างรุนแรง เพราะต่างชาติถล่มขาย และลงต่ำสุดระดับ 200 จุดเศษในปี 2541 ในช่วงนั้น ข้อมูลการซื้อขายของต่างชาติ ไม่ได้นำเสนอเป็นรายวันเหมือนปัจจุบันแต่เสนอเป็นรายเดือน
โดยตลาดหลักทรัพย์จะรวบรวมข้อมูลและเผยแพร่ประมาณสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนถัดไป ทำให้ นักลงทุนในประเทศปรับกลยุทธ์ไม่ทันการซื้อขายของต่างชาติ
เพราะก่อนจะเห็นตัวเลขต่างชาติซื้อ เหตุการณ์ได้ผ่านพ้นไปนับเดือน โดยต่างชาติไล่เก็บหุ้นต้นทุนต่ำไปแล้ว หรือในช่วงที่ต่างชาติถล่มขาย กว่านักลงทุนในประเทศจะรับรู้ข้อมูล ต่างชาติได้ขายหุ้นทำกำไรไปแล้ว เช่นเดียวกับเหตุการณ์ในช่วงปลายปี 2536 ซึ่งต่างชาติมาไล่ซื้อหุ้นในเดือนตุลาคมและเดือนพฤศจิกายนเท่านั้น
แต่เดือนธันวาคมทยอยขายออกทำกำไร โดยนักลงทุนภายในประเทศไม่รู้ตัว มาเห็นตัวเลขต่างชาติขายประมาณกลางเดือนมกราคม ซึ่งต่างชาติขายแทบเกลี้ยงพอร์ตแล้ว
ปัจจุบัน ต่างชาติแทบไม่มีอิทธิพลใดเหนือตลาดหุ้นไทย เพราะตลอด 5 ปี ต่างชาติขายหุ้นสุทธิมาต่อเนื่อง แต่หุ้นยังสามารถปรับตัวขึ้นได้ และเคยขึ้นไประดับ 1,830 จุด เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2561
และนับจากวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งตลาดหุ้นถูกผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ฉุดให้ดัชนีหุ้นทรุดลงไปที่ระดับ 969 จุด ขณะที่ต่างชาติยังเทขายอย่างหนักและต่อเนื่อง แต่ดัชนีหุ้นสามารถดีดตัวกลับขึ้นไปจนยืนที่ระดับ 1,300 จุดได้ เพิ่มขึ้นกว่า 300 จุด
ทฤษฎีฝรั่งซื้อหุ้นขึ้น ฝรั่งขายหุ้นลง คลายความขลังแล้ว เพราะแม้ฝรั่งจะขายถล่มขายไม่เลิก แต่หุ้นพุ่งสวนแรงขายฝรั่งได้เหมือนกัน
ใครที่ยังติดยึดทฤษฎีฝรั่งขาย หุ้นไม่มีโอกาสขึ้น และไม่กล้าซื้อหุ้น รอบนี้จึง พลาดโอกาสเก็บเกี่ยวกำไรอย่างน่าเสียดาย