ตอนนี้ไปที่ไหน มักได้รับคำถาม ช้อนซื้อหุ้นเก็บได้หรือยัง จะรออีกสักหน่อยดีไหม หรือควรเลือกหุ้นกลุ่มไหนดี
ตลาดหุ้นที่ทรุดฮวบ ดัชนีหุ้นที่ดิ่งเหวลงม้วนเดียวประมาณ 600 จุด ราคาหุ้นหลาย 100 บริษัทที่รูดมหาราช ต่ำสุดในรอบนับ 10 ปี ทำให้นักลงทุนทั้งมือเก่าและหน้าใหม่เห็นโอกาสรวย
แม้จะรู้ว่าภาวะตลาดหุ้นยังมีความผันผวน การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 คงไม่จบง่าย และดัชนีหุ้นมีสิทธิหลุดระดับ 1,000 จุดอีกครั้ง แต่ราคาหุ้นชวนให้น่าเสี่ยงอยู่ไม่น้อย
วิกฤตหุ้นรอบนี้เป็นอีกวิกฤตใหญ่ เช่นเดียวกับวิกฤตแบล็กมันเดย์ วิกฤตอ่าวเปอร์เซีย และวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 โดยราคาหุ้นปรับฐานลงมาลึกมาก
ถ้าสถานการณ์เชื้อไวรัสคลี่คลาย หุ้นมีโอกาสฟื้นกลับมายืนในระดับเดิมหรือใกล้เคียงราคาเดิมได้ภายในเวลาสั้นๆ นักลงทุนที่พอจะมีเงินสดสำรองในมือ จึงสนใจเข้ามาช้อนหุ้นเก็บ
ไม่มีใครบอกได้ว่า จุดต่ำสุดของหุ้นรอบนี้อยู่ที่ไหน จุดต่ำสุดของหุ้นแต่ละตัวอยู่ที่ใด แต่มีความรู้สึกเหมือนๆ กันว่า ราคาหุ้นลงมาต่ำมากแล้ว ต่ำจนน่าทยอยซื้อเก็บ และถ้าสามารถถือลงทุนระยะยาวได้ ไม่น่าจะเสี่ยงมากนัก
ตลาดหุ้นไทยผ่านวิกฤตมาหลายครั้ง โดยวิกฤตที่ทำให้ตลาดหุ้นซบเซายาวนานที่สุดคือ วิกฤตราชาเงินทุน และทำให้ตลาดหุ้นพังไป 8 ปีเต็ม เกิดขึ้นระหว่างปี 2522-2530 วิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 ฉุดให้เงียบเหงาเพียง 1-2 ปีเท่านั้น
ส่วนวิกฤตไวรัสโควิด-19 อาจไม่ยืดเยื้อยาวนานนัก โดยคาดกันว่า 6 เดือนหลังปีนี้ สถานการณ์จะคลี่คลาย ซึ่งหมายถึง นักลงทุนที่เตรียมเข้ามาช้อนหุ้นดักเก็งกำไรอาจไม่ต้องถือหุ้นรอยคอยจังหวะทำกำไรเป็นปีๆ
แต่ไม่กี่เดือนข้างหน้า อาจได้โอกาสขายทำกำไร
มีหุ้นนับ 100 บริษัทที่รอให้นักลงทุนช้อน ซึ่งหากยังกลัวๆ กล้าๆ กลัวซื้อของแพงควบคู่กับกลัวพลาดโอกาสซื้อของถูก อาจใช้วิธีทยอยซื้อเก็บสะสมไปก่อน โดยทยอยซื้อ 20% ของวงเงินลงทุนทั้งหมด ถ้าหุ้นลงไปอีกจึงทยอยซื้อเพิ่มจนครบวงเงินลงทุน
สำหรับหุ้นที่จะซื้อ อาจกระจายความเสี่ยง โดยลงทุนหุ้นขนาดใหญ่ในแต่ละกลุ่ม เลือกประมาณ 4-5 กลุ่ม เช่น ซื้อหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลสัก 1 บริษัท หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า 1 บริษัท หุ้นกลุ่มสื่อสาร 1 บริษัท หุ้นกลุ่มน้ำมันอีกสัก 1 บริษัท
และมองข้ามหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินไปก่อน เพราะผลประกอบการยังไม่สดใส
หุ้น 4-5 บริษัทที่ซื้อกระจายความเสี่ยงในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม จัดสรรเงินลงทุนในหุ้นแต่ละตัวให้เท่ากัน เมื่อซื้อครบวงเงินที่เตรียมไว้ลงทุนถือว่าจบ หลังจากนั้นไปนั่งลุ้นว่าเมื่อไหร่ตลาดหุ้นจะฟื้น
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ส่วนใหญ่ส่งสัญญาณให้ลูกค้าลงมือปฏิบัติการทยอยซื้อหุ้นเก็บแล้ว เพราะเห็นว่าราคาระดับนี้น่าสู้ ถ้ามีเงินเย็นเหลือๆ ควรช้อนซื้อเก็บ เนื่องจากความเสี่ยงต่ำ มีโอกาสขาดทุนเหมือนกัน แต่ถ้าถือได้ยาวๆ หุ้นจะต้องดีดกลับขึ้นมา และสามารถตักตวงกำไรงามๆ ได้
น่าเสียดายที่นักลงทุนส่วนใหญ่กระสุนหมด ไม่มีเงินสดอยู่ในมือ เพราะรีบร้อนช้อนซื้อหุ้นไปก่อนหน้า จนเสียโอกาสเก็บหุ้นต้นทุนต่ำ
แต่ สำหรับนักลงทุนที่กำเงินสดอยู่ในมือ ได้เวลาจับจ่ายในตลาดหุ้นแล้ว จัดสรรเงินให้ถูก เลือกหุ้นที่จะช้อนให้ดี รอบนี้มีรางวัลใหญ่รออยู่