xs
xsm
sm
md
lg

กสิกรฯ เผยดัชนีภาวะเศรษฐกิจฯ เดือน ก.พ.ร่วงต่ำสุดรอบ 73 เดือน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานดัชนี KR-ECI อยู่ในระดับ 37.3 ต่ำสุดรอบ 73 เดือน ขณะที่ดัชนี 3-month Expected KR-ECI อยู่ที่ 36.5 ชี้ครัวเรือนกังวลเพิ่มขึ้นในทุกมิติการครองชีพหลัง COVID-19 ระบาดรุนแรงขึ้น

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยรายงานดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนไทย (KR-ECI) ที่อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และพื้นที่ต่างจังหวัด ปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 73 เดือน จากระดับ 40.6 ในเดือน ม.ค.2563 มาอยู่ที่ระดับ 37.3 ในเดือน ก.พ.2563 นับเป็นครั้งแรกที่ดัชนีฯ ร่วงลงมาอยู่ในระดับต่ำกว่า 40.0 (ในช่วงก่อนหน้า ดัชนีฯ ปรับตัวขึ้นลงอยู่ในระดับ 40.0-50.0 จากหน่วยเต็มที่ 100.0) จากความกังวลของครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นในทุกมิติการครองชีพ ซึ่งมีส่วนสำคัญและได้รับผลกระทบมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ทวีความรุนแรงขึ้นทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศที่พึ่งพิงกำลังซื้อของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยวและการส่งออกนำเข้าสินค้า เช่น ธุรกิจสายการบิน ธุรกิจที่พักแรม ธุรกิจโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมการผลิตเพื่อการส่งออก เป็นต้น ทำให้ธุรกิจเหล่านี้ทยอยปรับตัวเพื่อประคับประคองสถานการณ์ความอยู่รอดของตนเอง โดยเฉพาะในเรื่องการจ้างงาน เช่น การขอความร่วมมือจากพนักงานใช้สิทธิลาหยุดโดยไม่รับค่าจ้าง (Leave Without Pay) การปรับลดเงินเดือนผู้บริหารระดับสูงและผู้จัดการ รวมถึงการเลิกจ้างบริษัทภายนอก/พนักงานชั่วคราว (Outsource)

ทั้งนี้ ปัจจัยดังกล่าวข้างต้นส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังความไม่มั่นคงทางด้านรายได้และการมีงานทำของครัวเรือนไทย โดยดัชนีองค์ประกอบที่สะท้อนมุมมองต่อรายได้และการมีงานทำของครัวเรือนปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก จากระดับ 47.1 ในเดือน ม.ค.2563 มาอยู่ที่ระดับ 43.1 ในเดือน ก.พ.2563 นอกจากนี้ สถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ยังส่งผลให้ครัวเรือนไทยมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการดูแลรักษาสุขภาพเพิ่มขึ้น เช่น การหาซื้อหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ รวมถึงผลิตภัณฑ์สำหรับฆ่าเชื้อต่างๆ เป็นต้น

ขณะที่ดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนในอีก 3 เดือนข้างหน้า (3-month Expected KR-ECI) ปรับตัวลดลงในทิศทางเดียวกันที่ 36.5 ซึ่งต่ำกว่าดัชนีฯ ในปัจจุบันสะท้อนให้เห็นว่า ครัวเรือนไทยมองภาพรวมเศรษฐกิจและการครองชีพของตนเองในช่วง 3 เดือนข้างหน้า (เดือน เม.ย.-มิ.ย.2563) ย่ำแย่กว่าในปัจจุบันอยู่ โดยเฉพาะสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ครัวเรือนไทยมองว่ายังไม่น่าไว้วางใจ ทั้งนี้ กิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศที่ลดลงต่อเนื่องในอีก 3 เดือนข้างหน้า จะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อภาคธุรกิจและภาคครัวเรือน ภาครัฐจึงออกมาตรการดูแลผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ระยะที่ 1 เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของภาคธุรกิจและภาระค่าครองชีพของครัวเรือน เช่น มาตรการลดภาษีหัก ณ ที่จ่าย เหลือร้อยละ 1.5 ในช่วง เม.ย.-ก.ย.2563 มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ มาตรการคืนเงินค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า เป็นต้น ซึ่งก็น่าจะมีส่วนช่วยประคับประคองการดำรงชีพของครัวเรือนให้ผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปได้

โดยสรุปแล้ว ดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนไทยในปัจจุบัน (KR-ECI) และดัชนีฯ ในอีก 3 เดือนข้างหน้า (3-month Expected KR-ECI) ปรับตัวลดลงจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นในทุกมิติการครองชีพของครัวเรือน หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ทวีความรุนแรงขึ้นทั่วโลก

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนไทยในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2563 จะเผชิญความเสี่ยงมากที่สุดจากทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ที่กระทบต่อภาวะความเป็นอยู่ของประชาชน และปัญหาภัยแล้งที่กระทบต่อการทำเกษตรกรรมและการอุปโภคบริโภคในประเทศ ทั้งนี้ ภาครัฐออกมาตรการดูแลผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ระยะที่ 1 ก็น่าจะช่วยประคับประคองการครองชีพของครัวเรือนไทยได้ในระดับหนึ่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น