ดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุนซบเซาต่อเนื่อง กังวลเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยว

FETCO เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน 3 เดือนข้างหน้าซบเซาต่อเนื่องจากความกังวลเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยว คาด กนง.มีโอกาสลดดอกเบี้ยลงอีก

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเดือนมีนาคมว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวลดลงอยู่ในเกณฑ์ซบเซา (Bearish) เป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน โดยลดลง 11.48% มาอยู่ที่ระดับ 64.40 โดยผลสำรวจพบว่านักลงทุนกังวลภาวะเศรษฐกิจในประเทศและสถานการณ์การท่องเที่ยวเป็นปัจจัยฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุน ขณะที่นักลงทุนคาดหวังนโยบายภาครัฐและผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน และนโยบายอัตราดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายทางการเงิน (กนง.) เป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด

ทั้งนี้ นักลงทุนสนใจลงทุนหมวดอาหารและเครื่องดื่มมากที่สุด รองลงมาคือ หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่หมวดการท่องเที่ยวและสันทนาการไม่น่าสนใจมากที่สุด รองลงมาคือหมวดยานยนต์และหมวดธนาคาร โดยในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับตัวลดลงมากโดยเฉพาะปลายเดือนจากความกังวลการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 โดยช่วงต้นเดือนดัชนีเคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวนอยู่ในกรอบระหว่าง 1,500-1,540 จุด ขณะที่ปลายเดือนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ลดลงมาอยู่ที่ 1,340 จุด

สำหรับทิศทางการลงทุนอีก 3 เดือนข้างหน้า ปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุดคือ การคาดหวังนโยบายภาครัฐ รองลงมาคือผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนและนโยบายการเงินของ กนง.ที่คาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงจากระดับร้อยละ 1 ขณะที่นักลงทุนกังวลภาวะเศรษฐกิจในประเทศเป็นปัจจัยฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด รองลงมาคือ การท่องเที่ยว และผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน

ส่วนปัจจัยโลกที่ต้องติดตาม ได้แก่ ความคืบหน้าแก้ปัญหาการควบคุมการแพร่กระจายเชื้อไวรัส COVID-19 และผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก นโยบายทางการเงินของธนาคารกลางทั่วโลก และนโยบายผ่อนคลายทางเศรษฐกิจของรัฐบาลประเทศต่างๆ สำหรับปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตาม คือ นโยบายเศรษฐกิจภาครัฐ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย การลงทุน การส่งออกและการท่องเที่ยวที่ลดลงมาก นโยบายอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยและการไหลเข้าออกของเงินทุน