บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งแรกที่ประกาศนำร่อง เตรียมออก หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน (Perpetual Subordinated Bond) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า หุ้นกู้ชั่วนิรันดร์ และคงมีบริษัทจดทะเบียนอื่นๆ ออกหุ้นกู้ประเภทต่างๆ ตามมาจำนวนมาก
ปีนี้จะมีบริษัทจดทะเบียนหันมาระดมทุน โดยการออกหุ้นกู้กันมากขึ้น เนื่องจากช่องทางการกู้เงินจากสถาบันการเงินแทบจะถูกปิดตาย เพราะสถาบันการเงินกลัวปัญหาหนี้เสีย จึงต้องป้องกันตัวเองจากความเสี่ยง และพิจารณาการปล่อยสินเชื่ออย่างเข้มงวด
เว้นแต่บริษัทที่มีโครงการลงทุนที่ดี มีหลักประกันเกินคุ้ม และมีฐานะทางการเงินมั่นคงเท่านั้นที่มีโอกาสกู้จากสถาบันการเงิน
ส่วนการเพิ่มทุนจดทะเบียน อาจไม่สามารถระดมเงินได้ตามที่ต้องการ เพราะผู้ถือหุ้นรายย่อย ซึ่งมักตกเป็นเป้าหมายในการสูบเงินของบริษัทจดทะเบียน เริ่มรู้ทันเกมการเพิ่มทุน และพากันสละสิทธิการจองซื้อ ทำให้แผนการเพิ่มทุนของบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งล้มเหลว
บริษัทจดทะเบียนบางแห่งขายหุ้นเพิ่มทุนได้ไม่ถึง 1% ของจำนวนหุ้นเพิ่มทุนทั้งหมด เพราะแม้แต่ผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ผลักดันการเพิ่มทุนยังสละสิทธิจองซื้อ
และผู้ถือหุ้นรายย่อยก็ไม่ยอมให้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทจดทะเบียนหลอกสูบเงินเหมือนกัน
บริษัทจดทะเบียนบางแห่งต้องขยายเวลาการชำระค่าจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนหลายรอบ แต่ผู้ถือหุ้นแทบไม่มีใครใช้สิทธิซื้อหุ้น
บางบริษัทต้องล้มเลิกแผนการเพิ่มทุน เพราะประเมินแล้วว่า ถ้าดันทุรังประกาศเพิ่มทุนก็คงระดมเงินไม่ได้ตามแผนที่วางไว้
การออกหุ้นกู้จึงเป็นช่องทางการระดมทุนที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดในสถานการณ์ปัจจุบัน เพียงแต่กำหนดอัตราดอกเบี้ยที่จูงใจ เพื่อกระตุ้นการลงทุนเท่านั้น
สำหรับหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนของ BANPU จะเสนอขายนักลงทุนทั่วไปในวงเงิน 4 พันล้านบาท และเตรียมสำรองเสนอขายเพิ่มเติมอีก 2 พันล้านบาท ไถ่ถอนเมื่อเลิกกิจการ กำหนดอัตราดอกเบี้ยใน 5 ปีแรก 5% ต่อปี จ่ายทุก 6 เดือน
อัตราดอกเบี้ย 5% ต่อปี ถือว่าจูงใจ แต่นักลงทุนต้องทำความเข้าใจกับหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนให้ดี เพราะหุ้นกู้ประเภทนี้อาจไม่มีการไถ่ถอนตลอดชาตินี้ โดยเงินต้นที่ลงทุนอาจจะจมอยู่ใน BANPU ชั่วนิรันดร์กาล
ส่วนความเสี่ยงอื่น คงเป็นเรื่องของความสม่ำเสมอหรือความสามารถในการชำระดอกเบี้ย ซึ่งเป็นปัจจัยความเสี่ยง ไม่เฉพาะหุ้นกู้ของ BANPU เท่านั้น
ปีที่ผ่านมา มีบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งที่ผิดนัดชำระหุ้นกู้ และต้นปีนี้ บริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ACAP เป็นบริษัทจดทะเบียนแห่งแรกประเดิมปี 2563 ที่ผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ โดยไม่รู้ว่าจะมีหุ้นกู้บริษัทใดไม่สามารถไถ่ถอนตามกำหนดเมื่อครบอายุตามมาอีกหรือไม่
อัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ต่ำระดับ 1% และมีแนวโน้มที่จะลดลงอีก ทำให้นักลงทุนดิ้นรนมองหาช่องทางการลงทุนใหม่ โดยหวังจะได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น
แต่การลงทุนทุกด้านเสี่ยงสูงไปหมด ลงทุนในตลาดหุ้น ถ้าประเมินทิศทางหุ้นผิดพลาดอาจหมดตัวในชั่วพริบตา โดยเฉพาะปีนี้ที่หุ้นผันผวนขึ้นลงรุนแรง
ลงทุนในหุ้นกู้ ซึ่งในอดีตค่อนข้างมีความปลอดภัย แต่ฐานะทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนที่เปราะบาง ทำให้หุ้นกู้มีความเสี่ยง และผิดนัดชำระหนี้มาหลายกรณีแล้ว
ปีนี้จะลงทุนอะไรต้องระวัง เพราะแทบจะทุกช่องทางการลงทุนเสี่ยงไปหมด แม้แต่หุ้นกู้บริษัทจดทะเบียนก็ตาม