xs
xsm
sm
md
lg

“ไทยเทคโนกลาส กรุ๊ป” ยื่นไฟลิ่งขาย IPO จำนวน 106 ล้านหุ้น เล็งเข้าตลาด mai

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"ไทยเทคโนกลาส กรุ๊ป" ยื่นไฟลิ่งขาย IPO จำนวน 106 ล้านหุ้น เล็งเข้าตลาด mai โดยมีบริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และมี บล.โกลเบล็ก เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย เผยเตรียมใช้เงินที่ได้จากการระดมทุนใช้ลงทุนในโรงงาน เครื่องจักร และคืนเงินกู้

บมจ.ไทยเทคโนกลาส กรุ๊ป ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและหนังสือชี้ชวน (ไฟลิ่ง) ฉบับแรกต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 63 เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 106 ล้านหุ้น คิดเป็น 25.12% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยมีบริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และมี บล.โกลเบล็ก เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นในครั้งนี้

ไทยเทคโนกลาส กรุ๊ป ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระจกแปรรูปตราสินค้า "BSG Glass" สินค้าหลักแบ่งเป็น 5 ประเภท ได้แก่ 1. กระจกมูลค่าสูงผ่านการออกแบบ (Design) 2. กระจกคุณสมบัติพิเศษ เช่น กระจกนิรภัยแข็งแรงพิเศษ 3. กระจกแปรรูปพื้นฐาน เช่น กระจกนิรภัยเทมเปอร์ กระจกนิรภัยลามิเนต เป็นต้น 4. สินค้าต่อเนื่องกระจก ได้แก่ หินบักบีต (Bugbeat) ผลิตภัณฑ์ตกแต่งกระจก และ 5. กระจกพร้อมบริการติดตั้ง

บริษัทมีโครงการลงทุนในโรงงานและคลังสินค้าแห่งใหม่ ขนาดพื้นที่ 9,000 ตารางเมตร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปรับเปลี่ยนสายการผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และวางแผนเพิ่มพื้นที่คลังสินค้าให้สอดคล้องกับกำลังการผลิตที่จะเพิ่มขึ้น คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างไตรมาส 3/63 และแล้วเสร็จไตรมาส 1/64 ส่วนโรงงานแห่งที่สองคาดว่าจะสร้างเสร็จไตรมาส 2/64 ตั้งอยู่ใน อ.เมือง จ.นครปฐม ห่างจากโรงงานเดิม 2 กิโลเมตร

พร้อมกันนั้น บริษัทจะลงทุนในเครื่องจักรเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์เดิมและการเพิ่มสายการผลิตสำหรับผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ในอนาคตต่อเนื่องจากแผนการขยายโรงงานแห่งที่สอง ได้แก่ เครื่องจักรเพื่อสนับสนุนการผลิตสินค้าประเภทกระจกมูลค่าสูงและกระจกลักษณะพิเศษสำหรับสายการผลิต ผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ (New S Curve), เครื่องจักรตัดและเจียรกระจก เริ่มลงทุนในไตรมาส 1/64 และขยายช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งออนไลน์ (Online) ร่วมกับทางออฟไลน์ (Offline) เช่น การจัดหาพันธมิตรในภูมิภาค เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในช่องทางการจัดจำหน่าย

สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลังช่วงปี 60-62 บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นจาก 190.07 ล้านบาทในปี 60 เป็น 420.23 ล้านบาทในปี 61 และ 431.10 ล้านบาทในปี 62 โดยรายได้ส่วนใหญ่ 59-65% มาจากการขายกระจกแปรรูปพื้นฐาน รองลงมาคือ รายได้จากการขายกระจกมูลค่าสูงผ่านการออกแบบ สัดส่วนประมาณ 26-33% ซึ่งมียอดขายค่อนข้างคงที่ในช่วงระหว่างปี 60-61 และลดลงปี 62 เนื่องจากภาวะชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ส่วนกำไรสุทธิเพิ่มจาก 32.48 ล้านบาทในปี 60 มาเป็น 33.53 ล้าบาทในปี 61 แต่ลดลงมาที่ 15 ล้านบาทในปี 62 เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นลดลงจาก 35.42% มาเป็น 33.33% จากรายได้จากการขายกระจกมูลค่าสูงผ่านการออกแบบ และกระจกคุณสมบัติพิเศษที่ลดลงจากการชะลอการลงทุนของโครงการอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มสูงขึ้น และค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงระบบการทำงานของบริษัทให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ณ วันที่ 31 ธ.ค. 62 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 364.33 ล้านบาท หนี้สินรวม 188.18 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 176.15 ล้านบาท บริษัทมีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 211,000,000 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญจำนวน 422,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดยเป็นทุนที่ออกและเรียกชำระแล้ว 158,000,000 บาท คิดเป็นจำนวน 316,000,000 หุ้น ทั้งนี้ ภายหลังการออกและเสนอขาย IPO ครั้งนี้ บริษัทจะมีทุนที่เรียกชำระแล้วเต็มจำนวน

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ประกอบด้วย บริษัท อรุณโฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 169,820,000 หุ้น คิดเป็น 53.74% หลังเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้จะลดสัดส่วนหุ้นลงเหลือ 40.24%, ตระกูลเลียวกิจสิริ ถือหุ้นรวมกัน 109,580,000 หุ้น หรือคิดเป็น 34.68% จะลดสัดส่วนหุ้นเหลือ 25.96% และตระกูลเลี่ยวศรีสุข ถือหุ้นรวมกัน 36,600,000 หุ้น คิดเป็น 11.58% จะลดสัดส่วนหุ้นลงเหลือ 8.68%

ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการ ภายหลังจากหักภาษีและเงินทุนสำรองตามกฎหมายและเงินสำรองอื่น (ถ้ามี)


กำลังโหลดความคิดเห็น