อควา คอร์เปอเรชั่น กำไรสุทธิงวดสิ้นปี 567.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 42% บริษัทมีรายได้รวม 1,266.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 16.40% และส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนใน EPCO 267.25 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 96.44% บอร์ดเสนอจ่ายปันผลแก่ผู้ถือหุ้นที่ 0.03 บาทต่อหุ้น
นายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA เปิดเผยว่า ผลงานในปี 2562 บริษัทมีรายได้รวม 1,266.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 16.40% และส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนใน EPCO 267.25 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 96.44% ทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิรวม 567.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 169.78 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 42.66%
โดยธุรกิจสื่อป้ายโฆษณาที่เป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ มีรายได้บริการ 809.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 113.55 ล้านบาท คิดเป็น 16.32% เมื่อเทียบกับปี 2561, ธุรกิจคลังสินค้าให้เช่าและบริการมีรายได้ 271.04 ล้านบาท ลดลง 18.36 ล้านบาท คิดเป็น 6.34% เมื่อเทียบกับปี 2561 เนื่องจากคลังสินค้า 1 แห่งของ AWH อยู่ระหว่างการจัดหาผู้เช่ารายใหม่, ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนของมันตรามีรายได้ 66.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.12 ล้านบาท ตามสัญญาเช่าและบริการ และธุรกิจโรงพิมพ์และพลังงานทดแทนมีรายได้ 1,530.27 ล่านบาท (ปันส่วนตามสัดส่วนการถือหุ้น) เพิ่มขึ้น 543 ล้านบาท คิดเป็น 55% เมื่อเทียบกับปี 2561
ขณะที่บอร์ดบริษัทแต่งตั้ง นายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร เข้าดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่, แต่งตั้ง นายปกรณ์ มงคลธาดา เข้าดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท, กรรมการบริหาร และกรรมการผู้มีอำนาจลงนามแทน นายสุพรรณ เศษธะพานิช โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ บอร์ดยังอนุมัติจัดสรรกำไรจากผลการดำเนินงานปี 2562 และกำไรสะสมเป็นสำรองตามกฎหมาย 7,252,105.26 บาท และการจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.03 บาท และให้จ่ายเงินปันผลดังกล่าวแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 7 พฤษภาคม 2563 อีกทั้งให้ลดทุนจดทะเบียน 688,950,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 2,985,450,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียน 2,296,500,000 บาท หรือเป็นหุ้นสามัญ 1,377,900,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ซึ่งเป็นส่วนที่ขอเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) จากการประชุมครั้งก่อน
“ในปี 2562 บริษัทฯ มีผลกำไรจากการดำเนินงานทะลุ 500 ล้านบาทเป็นครั้งแรก จากธุรกิจหลักคือป้ายโฆษณา บริหารอสังหาริมทรัพย์ และส่วนแบ่งกำไรจาก EPCO ที่มีรายได้หลักจากธุรกิจพลังงานที่มีผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจน้อยมาก และการจ่ายเงินปันผล 0.03 บาทต่อหุ้นในครั้งนี้จะทำให้บริษัทมีอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนเฉลี่ย 5.26% ซึ่งสูงที่สุดเท่าที่เคยจ่ายมา”