ผู้ถือหุ้นบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH เหมือนกับถูกหวย รวยโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว หลังจากบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS ประกาศทำคำเสนอซื้อหุ้น BH ทั้งหมด หรือเทนเดอร์ออฟเฟอร์แบบสมัครใจ ในราคาหุ้นละ 125 บาท
เพราะหุ้น BH พุ่งทะยานรับข่าวทันที โดยเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจาก BDMS แจ้งมติคณะกรรมการบริษัทผ่านตลาดหลักทรัพย์ในเช้าวันเดียวกัน ราคาหุ้นขยับขึ้นมาปิดที่ 130 บาท เพิ่มขึ้น 18 บาท หรือเพิ่มขึ้น 16.07%
นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ใน BDMS สัดส่วน 16.66% ของทุนจดทะเบียน โดยมีผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวนทั้งสิ้น 52,540 ราย ถือหุ้นในสัดส่วนรวมกัน 64.17% ซึ่งการจัดทำคำเสนอซื้อครั้งนี้จะทำให้ผู้ถือหุ้นจำนวนกว่า 5 หมื่นรายกำไรในพริบตา
BDMS ถือหุ้นใน BH อยู่แล้ว ในสัดส่วน 24.92% และจะจัดทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลืออีก 75.08% ใช้เงินทั้งสิ้นประมาณ 85,612.73 ล้านบาท
การกำหนดราคาเสนอซ้อหุ้น BH ถือว่าให้ความเป็นธรรมต่อผู้ถือหุ้นในระดับหนึ่ง เพราะเป็นราคาที่สูงกว่าราคาในกระดานประมาณ 10% และเทียบกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทถือว่า ราคาเสนอซื้อมีความเหมาะสม
เพราะ BH มีค่า พี/อี เรโช ระดับ 21 เท่า อัตราเงินปันผลตอบแทน 2.59% ราคาตามมูลค่าหุ้นทางบัญชี 4.28 เท่า มูลค่าหุ้นทางบัญชี 16.18 บาทต่อหุ้น
ถ้าผู้ถือหุ้นเดิมเห็นว่า ราคาที่ BDMS จัดทำคำเสนอซื้อไม่เหมาะสม สามารถเลือกที่จะไม่ขายได้ เพราะยังไม่มีแผนเพิกถอน BH ออกจากตลาดหุ้น
นายแพทย์ปราเสริฐ เคยก่อคดีอื้อฉาว เมื่อต้นปี 2562 หลังจากถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ประกาศใช้มาตรการลงโทษทางแพ่ง สั่งปรับพร้อมพวกรวม 3 คน จำนวน 499.45 ล้านบาท ความผิดฐานสร้างราคาหุ้น บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA ซึ่งนายแพทย์ปราเสริฐ ยอมชำระค่าปรับ
คดีปั่นหุ้น BA อาจเป็นบทเรียนที่ทำให้หมอปราเสริฐ ระมัดระวังในการกระทำความผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์ การประกาศทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์หุ้น BH ครั้งนี้จึงเงียบสนิท ไม่มีข้อครหาเรื่องการนำข้อมูลภายในมาใช้แสวงหาประโยชน์ หรืออินไซเดอร์เทรดดิ้งแต่อย่างใด
หุ้น BH อยู่ในช่วงขาลงมาตั้งแต่ต้นปี จากราคาปิดเมื่อสิ้นปี 2562 ที่ 147 บาท ปรับฐานลงมาเรื่อยๆ แม้ก่อนเพิ่มทุน 2 สัปดาห์ ราคาก็ทรุดลงต่อเนื่อง จนลงมายืนที่ 112 บาท ก่อนประกาศทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์เพียงวันเดียว
การเทกโอเวอร์ BH จึงไม่มีสิ่งบ่งชี้อินไซเดอร์ แต่สิ่งที่ผู้ถือหุ้นจำนวนกว่าครึ่งแสนรายต้องพิจารณาคือ จะขายหุ้นให้ BDMS หรือไม่
ในรอบ 12 เดือน ราคาหุ้น BH เคยพุ่งขึ้นไปสูงสุดที่ 190 บาท ต่ำสุดที่ 107.50 บาท ราคาก่อนประกาศทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ แม้จะไม่ใช่ราคาต่ำสุดในรอบ 1 ปี แต่ก็เป็นราคาต่ำติดดิน
และไม่มีสัญญาณฟื้น ถ้าไม่มีข่าวเทนเดอร์ออฟเฟอร์เข้ามาหนุน
กลุ่มโรงพยาบาล เป็นหนึ่งในหุ้นไม่กี่กลุ่มที่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ยังเชียร์ให้ลงทุนอยู่ เพราะไม่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำหรือแม้กระทั่งวิกฤตเชื้อไวรัสโควิด-19
อย่างไรก็ตาม BH พุ่งขึ้นมารับข่าวดีเต็มอิ่มแล้ว ในระยะสั้นอาจขยับไปไหนไม่ได้ไกลจากราคา 128 บาทมากนัก
ถ้าราคาหุ้นบนกระดานพุ่งแรงแซงหน้าราคาเทนเดอร์ออฟเฟอร์ อาจเป็นจังหวะชิงขาย BH โกยกำไรไว้ก่อน ในยามที่หากำไรจากตลาดหุ้นยาก
และแม้จะประกาศทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์แบบสมัครใจ แต่ก็เข้าข่ายการเทกโอเวอร์ หรือครอบงำกิจการอย่างไม่เป็นมิตร เพราะกลุ่มนายชัย โสภณพนิช ประกาศไม่ขายหุ้น และหยิบยกประเด็นการผูกขาดทางธุรกิจมาต่อต้านการเทกโอเวอร์
จะเก็งกำไรหุ้น BH จึงต้องระวังความเสี่ยงจากประเด็นการเทกโอเวอร์อย่างไม่เป็นมิตรไว้ เพราะแผนการฮุบโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ของหมอปราเสริฐ อาจล้มเหลว
การทำเทนเดอร์ BH อาจถูกยกเลิกได้