ตลาดหุ้นเปิดฉากปีใหม่อย่างสดใส ดัชนีหุ้นวิ่งฉิวและทำท่าจะผ่านระดับ 1,600 จุดได้สบายๆ แต่เหมือนมีกรรมบัง เปิดการซื้อขายเช้าวันศุกร์ที่ 3 มกราคมไม่ทันเท่าไหร่ ข่าวร้ายชิ้นใหญ่ก็กระหน่ำเข้ามา ทำให้นักลงทุนหวั่นไหว เทขายหุ้น จนดัชนีหุ้นที่พุ่งทะยานต้องทรุดลง
การสังหารนายพลคนสำคัญของประเทศอิหร่าน คาสนามบินในอิรัก ทำให้สถานการณ์ในตะวันออกกลางตึงเครียดขึ้นทันที โดย อิหร่านประกาศตอบโต้สหรัฐฯ จนอาจนำไปสู่การเปิดสงครามระหว่าง 2 ประเทศ
หุ้นทำท่าจะดีอยู่แล้ว เพราะในวันที่ 15 มกราคมนี้ จะมีการลงนามในข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน และเป็นปัจจัยบวก ทำให้มีแรงซื้อไหลทะลักเข้ามา จนดัชนีหุ้นในวันแรกที่เปิดรับศักราชใหม่พุ่งขึ้นแรง และมีแนวโน้มว่า หุ้นจะกลับเข้าสู่ขาขึ้นเต็มตัว
ถ้าไม่เกิดความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ดัชนีหุ้นคงวิ่งทะลุ 1,600 จุดไปแล้ว แต่เหตุการณ์สังหารนายพลคนสำคัญของอิหร่าน หุ้นจึงถูกผลกระทบเต็มเปา นักลงทุนไม่มั่นใจในทิศทางตลาด เพราะไม่อาจประเมินระดับความรุนแรงในการตอบโต้ของอิหร่านได้ ไม่อาจคาดหมายว่า จะเกิดสงครามหรือไม่ และเหตุการณ์ลุกลามบานปลายขนาดไหน
ราคาทองคำและราคาน้ำมันพุ่งทะยานขึ้นทันที ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดิ่งลง เพราะนักลงทุนเชื่อว่า จะมีเหตุร้ายตามมา จึงโดดลงหลุมหลบภัย โดยย้ายเงินไปพักไว้ในทองคำ และเก็งกำไรราคาน้ำมัน แต่ทิ้งหุ้น
มีเพียงหุ้นกลุ่มน้ำมันเท่านั้นที่พุ่งสวนตลาด เพราะอานิสงส์จากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น
ผลกระทบจากสงครามการค้าคลี่คลายลงแล้ว แต่ปัจจัยลบชิ้นใหม่แทรกซ้อนเข้ามา โดยชนวนสงครามระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่านลุกโชนขึ้น และไม่อาจคาดหมายได้ว่า สถานการณ์จะจบลงในระยะเวลาอันสั้น หรือยืดเยื้อยาวนาน
นอกจากนั้น ยังมีปัจจัยทางการเมืองภายในที่ไม่อาจมองข้ามได้ โดยเฉพาะการนัดรวมพล “วิ่งไล่ลุง” ของกลุ่มคนที่เห็นต่างกับฝ่ายรัฐบาล ในวันที่ 12 มกราคมนี้ ขณะที่มีการปลุกระดมฝ่ายที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยจัดรายการ “เดินเชียร์ลุง” ในวันเดียวกัน จนเกรงกันว่า อาจเกิดปัญหาเผชิญหน้าระหว่างม็อบรัฐบาลและม็อบฝ่ายที่เห็นต่าง
การเมืองภายในจึงเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อตลาดในระยะสั้น
การฟื้นตัวของตลาดหุ้นต้องสะดุดลง เพราะนักลงทุนกังวลกับข่าวร้าย ไม่กล้าผลีผลามไล่ซื้อหุ้น และคงเฝ้ารอดูการตอบโต้ของอิหร่าน พร้อมรอให้รายการ “วิ่งไล่ลุง” ผ่านพ้นไปก่อน โดยชะลอการลงทุนไว้ชั่วคราว เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการตัดสินใจที่ผิดพลาด
แนวโน้มตลาดหุ้นระยะสั้น ถูกชี้นำด้วยชนวนสงครามระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ ซึ่งไม่อาจทำนายได้ว่า จะเกิดเหตุการณ์ร้ายอะไรตามมา จะลุกลามกลายเป็นสงครามใหญ่หรือไม่
อารมณ์ความรู้สึกของนักลงทุนกำลังเปราะบาง พร้อมจะขาย ถ้ามีสัญญาณว่าร้าย หรือสงครามระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่านปะทุขึ้น
ตอนนี้คงปรับพอร์ตกันไม่ทันแล้ว จะซื้อก็มีความเสี่ยง จะขาย หากสถานการณ์ระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ ไม่ลุกลาม ก็อาจเสียของ
สิ่งที่ดีที่สุดขณะนี้คือ การเฝ้ารอดูเหตุการณ์ จนกว่าจะมีความชัดเจน เพราะสถานการณ์อยู่ในภาวะหน้าสิ่วหน้าขวาน ไม่จำเป็นจึงอย่าเสี่ยง
ถือเงินสดรอคอยจังหวะดีๆ ไว้ ควันไฟสงครามสหรัฐฯ กับอิหร่านจางลง จึงกลับมาเลือกช้อนหุ้นเก็บปลอดภัยกว่า