YLG มองเหตุสหรัฐฯ สั่งลอบสังหารผู้นำทางการทหารของอิหร่านจุดชนวนความขัดแย้งในตะวันออกกลางกดดันภาพรวมการลงทุนทั่วโลก เผยเหตุตึงเครียดสองฝ่ายหากยืดเยื้ออาจดันราคาทองคำพุ่งแตะ 1,700 เหรียญ/ออนซ์
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ YLG เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐอเมริกากับประเทศอิหร่าน ส่งผลต่อแนวโน้มทิศทางราคาทองคำในปี 2563 ซึ่งจากเหตุการสังหารผู้นำทางการทหารของอิหร่านเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำให้ราคาทองคำปรับตัวพุ่งสูงขึ้นทันทีถึง 21.39 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือเพิ่มขึ้น 1.4% ในวันศุกร์ สวนทางกับการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ ที่ปรับตัวลดลง เช่น ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ในวันศุกร์ปิดที่ 28,634.88 จุด ร่วงลง 233.92 จุด หรือลดลง 0.81 ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐถูกเทขายเพื่อเข้าซื้อสกุลเงินปลอดภัย เช่น เงินเยนญี่ปุ่น และฟรังก์สวิส ทำให้ดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงรับข่าวความขัดแย้งในทันที ขณะที่ด้านพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งคงอยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยได้รับแรงหนุนเช่นกัน โดยแรงซื้อพันธบัตรกดดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ให้ปรับตัวลง จนสร้างแรงกระเพื่อมให้กับราคาทองคำปรับตัวเพิ่มเติม
"แม้สถานการณ์ดังกล่าวจะหนุนแนวโน้มทองคำให้ปรับตัวขึ้น แต่ก็ยังคงต้องระวังแรงขายทำกำไรที่จะสลับออกมาเป็นระยะ สำหรับนักลงทุนระยะสั้นหรือ Day Trade เน้นกลยุทธ์ในการเข้าซื้อเป็นหลัก โดยมองกรอบเข้าซื้อบริเวณ 1,566-1,561 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และถ้าหากหลุดให้ชะลอการเข้าซื้อไปยังโซนแนวรับถัดไป 1,557-1,553 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ควรตัดขาดทุนหากหลุด 1,553 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อราคาดีดตัวขึ้นอาจแบ่งปิดสถานะทำกำไรบางส่วนหากไม่ผ่าน 1,589 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าผ่านได้สามารถถือต่อ ที่สำคัญคือ นักลงทุนต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อปรับกลยุทธ์การลงทุนให้สอดรับกับสถานการณ์ที่มีความไม่แน่นอนสูง รวมถึงระมัดระวังแรงขายทำกำไรในระยะสั้นหากสถานการณ์ไม่ทวีความรุนแรงอย่างที่หลายฝ่ายวิตก"
ทั้งนี้ YLG ยังได้คาดการณ์ทิศทางราคาทองคำในปีนี้ว่ายังคงเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้น โดยมีโอกาสที่ราคาทองคำจะขยับขึ้นต่อเพื่อทดสอบระดับ 1,603-1,616 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 22,900-23,100 บาทต่อบาททองคำ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. ปี 2556 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ ทวีความรุนแรงขึ้นจะยิ่งเพิ่มโอกาสที่ราคาทองคำจะสามารถทะลุผ่านกรอบแนวต้านแรก โดยประเมินแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 24,250 บาท/บาททองคำ