xs
xsm
sm
md
lg

ความกลัวเกิดสงครามใหญ่ครั้งในตะวันออกกลาง ทำราคาน้ำมัน-ทองพุ่งพรวด

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


<i> (ภาพจากแฟ้มถ่ายเมื่อ 20 ก.ย. 2019) พนักงานของอารัมโค บริษัทน้ำมันซาอุดีอาระเบีย ขณะปฏิบัติงานที่โรงแปรรูปน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านั้นถูกถล่มโจมตีได้รับความเสียหาย  ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบโลกเวลานี้ได้พุ่งขึ้นไปสู่ระดับเมื่อกว่า 3 เดือนก่อนอีกครั้ง สืบเนื่องจากสหรัฐฯลอบสังหารผู้นำทหารคนสำคัญของอิหร่าน </i>
เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - ความหวาดผวาจะเกิดสงครามความขัดแย้งครั้งใหญ่ในตะวันออกก]าง ภายหลังสหรัฐฯโจมตีลอบสังหารนายพลระดับท็อปของอิหร่านเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้ในตลาดแถบเอเชียวันนี้ (จ.6ม.ค.) น้ำมันราคาพุ่งพรวด เช่นเดียวกับทองซึ่งทำสถิติสูงสุดในรอบระยะเวลากว่า 6 ปี ส่วนราคาหุ้นส่วนใหญ่พากันตกระนาว

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่คำรามจะ “ตอบโต้เอาคืนอย่างใหญ่โต” กับเตหะราน หลังจากอิหร่านประกาศจะ “แก้แค้นอย่างดุเดือดรุนแรง” สำหรับการที่สหรัฐฯส่งโดรนลอบสังหารนายพล กาเซ็ม โซไลมานี ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษ “คุดส์” แห่งกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน ซึ่งมีอิทธิพลบารมีสูงลิ่ว เสียชีวิตเมื่อตอนเช้ามืดวันศุกร์ (3) ณ สนามบินกรุงแบกแดด ของอิรัก การท้าทายกันและกันเช่นนี้สร้างความตื่นตกใจให้แก่ตลาดทั่วโลก และจุดชนวนให้มีการเทขายหุ้น ขณะที่ราคาน้ำมันดิบทะยานสูง

อิหร่านยังประกาศในวันอาทิตย์ (5) ว่าจะก้าวคืบไปอีกขั้นในการเลิกทำตามความผูกพันตามสัญญานิวเคลียร์ของตน ซึ่งอันที่จริงข้อตกลงนี้ก็ได้ถูกสหรัฐฯฉีกทิ้งไปก่อนเป็นเวลาตั้งปีกว่าแล้ว ขณะเดียวกันรัฐสภาอิรักได้ผ่านมติเรียกร้องให้สหรัฐถอนทหารอเมริกันที่ตั้งอยู่ในประเทศของตนออกไป

วิกฤตการณ์คราวนี้สั่นสะท้านพวกนักลงทุน ผู้ซึ่งก่อนหน้านี้ยังอยู่ในมู้ดสดใสในเมื่อจีนกับสหรัฐฯเตรียมตัวที่จะลงนามในข้อตกลงการค้า เฟส 1 กันในสัปดาห์หน้า แถมมีตัวเลขข้อมูลซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจโลกกระเตื้องขึ้นมาเล็กน้อย

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 ชนิดหลักต่างไต่ขึ้นแรกในการซื้อขายแถบเอเชียวันจันทร์ โดยที่น้ำมันดิบชนิด “เบรนต์” ขึ้นไปทะลุขีด 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว ตอนที่เกิดเหตุโรงกลั่นน้ำมันซาอุดีอาระเบีย 2 แห่งถูกโจมตี และชาติผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของโลกรายนี้ต้องลดการผลิตลงไปครึ่งหนึ่งเป็นช่วงสั้นๆ

<i>จอภาพแสดงดัชนีราคาหุ้นของตลาดโตเกียว ขณะอยู่ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายเมื่อวันจันทร์ (6 ม.ค.)  โดยในตอนปิดตลาด ดัชนีติดลบเกือบ 2% </i>
เรย์ แอตทริลล์ นักวิเคราะห์แห่งธนาคารเนชั่นแนล ออสเตรเลีย แบงก์ ชี้ว่า ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์เช่นนี้ น่าจะยังบานปลายขยายตัวต่อไปในช่วงหลายๆ วันข้างหน้านี้ ดังนั้นจึงเป็นแรงสนับสนุนราคาน้ำมัน ขณะที่พวกตลาดสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ในภาวะตกเป็นฝ่ายรับ

สำหรับพวกสินทรัพย์ที่ถือเป็นแหล่งหลบภัยยอดนิยมในเวลาเกิดความปั่นป่วนผันผวน ก็พากันขยับสูงขึ้น โดยที่ทองคำมีราคาสูงถึงระดับไม่ได้พบเห็นกันมาเลยนับตั้งแต่กลางปี 2013 ขณะที่เงินเยนญี่ปุ่นแข็งปั๋งที่สุดในรอบ 3 เดือนเพื่อแลกเปลี่ยนกับเงินดอลลาร์

ส่วนตลาดหุ้นแถบเอเชียในวันจันทร์ พากันติดลบตามรอยวอลล์สตรีทเมื่อวันศุกร์ ซึ่งดัชนีสำคัญทั้ง 3 ตัวต่างหล่นวูบลงจากระดับที่สูงทำลายสถิติ โดยดัชนีนิกเกอิของตลาดโตเกียวถอยลงมาเกือบ 2% ส่วนดัชนีหั่งเส็งของฮ่องกงก็หดลงมา 0.8% สิงคโปร์ตก 0.7% และโซลติดลบ 1%

ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ตอนปิด อยู่ในสภาพเสมอตัว เนื่องจากพวกนักลงทุนยังมีกำลังใจจากการที่ทางการจีนให้สัญญาช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าจะสนับสนุนภาคการธนาคารและธุรกิจขนาดเล็กซึ่งกำลังย่ำแย่ของแดนมังกร สืบเนื่องจากปัญหาหนี้สินที่ใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น