เอเจนซีส์ - “ทรัมป์” ยังยืนกรานว่าการที่สหรัฐฯ จะเข้าโจมตีทำลายสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมของอิหร่าน เป็นสิ่งที่ชอบธรรม หากเตหะรานขืนตอบโต้แก้แค้นที่อเมริกาลอบสังหารนายพลคนสำคัญ ถึงแม้การแสดงความเห็นเช่นนี้ของเขาก่อนหน้านี้ถูกท้วงติงว่าเข้าข่ายเป็นอาชญากรสงคราม นอกจากนั้นประธานาธิบดีอเมริกันยังออกอาการฉุนขาดสภาอิรักโหวตขับกองกำลังพันธมิตรออกนอกประเทศ ชี้ถ้าทหารอเมริกันถูกขับไล่จะแซงก์ชันแบกแดดชนิดที่มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านที่ผ่านมาเล็กน้อยไปถนัดใจ นอกจากนั้นอิรักยังต้องจ่ายค่าฐานทัพหลักของอเมริกาที่มีต้นทุนมหาศาลคืนให้ก่อนด้วย
หลังจาก ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันว่า อเมริกาไม่ลังเลเลยที่จะตอบโต้หากถูกอิหร่านโจมตี แต่ย้ำว่า ปฏิบัติการทางทหารใดๆ จะเป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กลับให้สัมภาษณ์สวนทางระหว่างอยู่บนแอร์ฟอร์ซวันเพื่อเดินทางจากฟลอริดากลับสู่กรุงวอชิงตันเมื่อวันอาทิตย์ (5 ม.ค.) ว่า สถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมของอิหร่าน เช่น สถานที่กว่า 20 แห่งที่ยูเนสโกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก คือเป้าหมายที่เหมาะสมและยุติธรรม หากอิหร่านขืนตอบโต้ล้างแค้นด้วยการโจมตีอเมริกา
การแสดงความคิดเห็นเช่นนี้มีขึ้นหลังจากที่ผู้นำสหรัฐฯ ทวีตเมื่อคืนวันเสาร์ (4) ว่า จะโจมตีเป้าหมาย 52 จุด รวมถึงสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมในอิหร่าน ซึ่งเรียกเสียงวิจารณ์สนั่นจากทั้งภายในและภายนอกประเทศ ในจำนวนนี้รวมถึงโมฮัมหมัด จาวัด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านที่ตอบโต้ทันควันว่า ท่าทีของทรัมป์ไม่ต่างจากกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ที่ทำลายมรดกทางวัฒนธรรมของตะวันออกกลาง
วุฒิสมาชิก เอลิซาเบธ วอร์เรน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้สมัครเพื่อเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปลายปีนี้ ทวิตว่า ทรัมป์กำลังขู่ก่ออาชญากรรมสงคราม และย้ำว่า คนอเมริกันไม่ต้องการทำสงครามกับอิหร่าน
ขณะ ส.ว.ชัค ชูเมอร์ ผู้นำพรรคเดโมแครตในสภาสูงเตือนว่า ทรัมป์กำลังลากอเมริกากลับเข้าสู่สงครามไม่รู้จบในตะวันออกกลาง
ด้าน แนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครต เปิดเผยเมื่อคืนวันอาทิตย์ว่า สภาล่างจะเสนอญัตติป้องกันไม่ให้ทรัมป์นำอเมริกาเข้าสู่สงครามกับอิหร่านตามอำเภอใจ เพื่อให้มีการโหวตภายในสัปดาห์นี้
ญัตติดังกล่าวมีแนวโน้มผ่านความเห็นชอบในสภาล่าง แต่ยังไม่แน่ว่าจะได้รับการรับรองจากสภาสูงหรือไม่ เนื่องจากสมาชิกรีพับลิกันจำนวนมากสนับสนุนการดำเนินการของทรัมป์ต่ออิหร่าน
ทางด้านทรัมป์ไม่สนใจเสียงวิจารณ์ที่ว่า เขาสั่งลอบสังหาร พลเอก กาเซ็ม โซไลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน โดยไม่ปรึกษาสภา แต่กลับแจ้งเรื่องนี้อย่างเป็นทางการหลังผ่านไปแล้วเกือบ 48 ชั่วโมง โดยทรัมป์ยังย้ำว่า ไม่จำเป็นต้องขออนุมัติจากคองเกรสสำหรับปฏิบัติการทางทหารใดๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และสำทับว่า ถ้าตัดสินใจจะโจมตีอิหร่านอีก จะแจ้งล่วงหน้าทางทวิตเตอร์
ประมุขทำเนียบขาวสำทับว่า ปฏิบัติการลอบสังหารโซไลมานี มีขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการทำสงครามกับเตหะราน และเตือนอิหร่านไม่ให้คิดตอบโต้
ทว่า เตหะรานแค้นจัดและประกาศล้างแค้นอเมริกาอย่างสาสม
ใช่เพียงอิหร่านเท่านั้นที่โกรธแค้นกับปฏิบัติการลอบสังหารนายพลคนดัง ชาวอิรักจำนวนมากเดือดดาลกับเหตุการณ์นี้เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ นอกจากโซไลมานีแล้ว ยังมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้อีกหลายคน รวมถึงอบู มะห์ดี อัล-มุฮันดิส ผู้บัญชาการกองกำลังอาวุธท้องถิ่นคนสำคัญของอิรัก
ในวันอาทิตย์ รัฐสภาอิรักยังโหวตสนับสนุนคำร้องให้รัฐบาลยุติข้อตกลงอนุญาตให้กองกำลังพันธมิตรที่นำโดยอเมริกาเข้าไปช่วยอิรักปราบไอเอส
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินประจำตำแหน่งว่า อิรักจะต้องเผชิญมาตรการแซงก์ชันที่รุนแรงกว่าที่บังคับใช้กับอิหร่านหลายเท่า หากคิดบีบให้กองทัพอเมริกันพร้อมกำลังพลราว 5,200 นายถอนออกไป รวมทั้งยังต้องรับผิดชอบจ่ายค่าฐานทัพหลักของอเมริกาที่มีต้นทุนสูงมากอีกด้วย
วิกฤตการณ์ครั้งนี้มีขึ้น ในเวลาเดียวกับที่ทรัมป์ต้องเผชิญปัญหาการเมืองภายในประเทศ จากการถูกสภาล่างที่ควบคุมโดยพรรคเดโมแครตยื่นถอดถอนออกจากตำแหน่ง ข้อหาลุแก่อำนาจและขัดขวางการสอบสวนของสภา ขณะที่วุฒิสภาซึ่งควบคุมโดยพรรครีพับลิกันของทรัมป์ที่ต้องเป็นผู้รับลูกดำเนินการเรื่องนี้ต่อนั้น ยังตกลงกันไม่ได้ว่า จะจัดให้มีการไต่สวนพิจารณาความผิดของทรัมป์กันเมื่อใดและอย่างไร
