บริษัท คิง ไว กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KWG ประกาศมติผลการประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยมีมติเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 13,170.53 ล้านบาท เป็น 20,670.53 ล้านบาท นำหุ้นใหม่ จำนวน 750 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 10 บาท และเป็นการเพิ่มทุนติดต่อกันหลายปี
นอกจากมติเพิ่มทุนแล้ว คณะกรรมการ KWG ยังมีมติอนุมัติให้บริษัท คิง ไว แคปปิตอล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูก ซื้อหุ้นบริษัท แมนูไลฟ์ ประกันชีวิต ในสัดส่วน 99.61% ของทุนจดทะเบียน และซื้อหุ้นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) จำกัด ในสัดส่วน 48.86% ของทุนจดทะเบียน ในวงเงินรวมทั้งสิ้น 1,000 ล้านบาท
วาระที่น่าสนใจของ KWG คือ การเพิ่มทุนโดยนำหุ้นใหม่ จำนวน 750 ล้านหุ้น เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิม ในสัดส่วน 1.7561 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ โดยราคาเสนอขายจะคำนวณจากราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักย้อนหลังระหว่างวันที่ 21 มกราคมถึง 11 กุมภาพันธ์ 2563 โดยมีส่วนลด 5% และประกาศให้ผู้ถือหุ้นรับรู้ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ก่อนประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563
ปัญหาคือ ผู้ถือหุ้นรายย่อยจะใส่เงินเพิ่มทุนหรือไม่ เพราะใส่เงินเพิ่มทุนไปหลายรอบแล้ว แต่มักเจ็บเนื้อเจ็บตัว เพราะหลังจากใช้สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน ราคาหุ้นในกระดานปรับตัวลงต่ำกว่าราคาหุ้นเพิ่มทุน
3 ปีย้อนหลัง KWG เพิ่มทุนต่อเนื่อง และมักประกาศเพิ่มทุนในช่วงปลายปี พร้อมกับการอนุมัติรายการซื้อขายทรัพย์สินควบคู่กันทุกครั้ง เหมือนประเพณีปฏิบัติ โดยเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2559 คณะกรรมการบริษัทฯ เคยประกาศเพิ่มทุน นำหุ้นใหม่ จำนวน 704 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 10 บาท เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 3.2 หุ้นใหม่ ในราคา 2.63 บาท
วันที่ 22 ธันวาคม 2561 คณะกรรมการ KWG มีมติอนุมัติทำรายการซื้อขายทรัพย์สินนับพันล้านบาท พร้อมเพิ่มทุน โดยนำหุ้นใหม่ จำนวน 369.47 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 10 บาท เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 2.564633 หุ้นต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคาหุ้นละ 2.49 บาท ลดลงจากราคาหุ้นใหม่ที่เสนอขานหุ้นเดิมปี 2559
และเมื่อวันที่ 4 ธันวาคมปีนี้ คณะกรรมการก็มีมติอนุมัติทำรายการซื้อขายทรัพย์สิน พร้อมออกหุ้นใหม่ สูบเงินจากผู้ถือหุ้นเดิมอีกรอบ
โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ KWG ประกอบด้วย บริษัท KWT1499 (THAILAND) จำกัด ถือหุ้น 46.73% ของทุนจดทะเบียน บริษัท ทอมโม (ประเทศไทย) จำกัด ถือหุ้น 38.22% ของทุนจดทะเบียน มีผู้ถือหุนรายย่อย จำนวน 1,850 ราย ถือหุ้นรวมกันในสัดส่วน 13.26%
ผลดำเนินงาน KWG ไม่โดดเด่นนัก แม้จะมีกำไร แต่มีกำไรน้อยมาก โดยปี 2560 มีกำไรสุทธิ 69.69 ล้านบาท ปี 2561 กำไรสุทธิ 35.26 ล้านบาท และงวด 9 เดือนแรกปีนี้ ขาดทุนสุทธิ 306.24 ล้านบาท โดยมียอดขาดทุนสะสม 1,374.72 ล้านบาท และไม่จ่ายปันผลยาวนาน
หุ้น KWG เคยอยู่ในข่ายที่จะถูกเพิกถอน แต่มีการเพิ่มทุน ทำให้หลุดพ้นเงื่อนไข แต่ฐานะการดำเนินงานไม่โดดเด่น ทำให้หุ้นไม่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากนัก แม้ว่าในบางช่วงจะมีการจุดพลุราคาหุ้น จนพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงก็ตาม แต่การจุดพลุลากราคาหุ้นเกิดขึ้นเพียงชั่วเวลาสั้นๆ เท่านั้น ก่อนที่หุ้นจะกลับสู่ความเงียบเหงา และซื้อขายวันละไม่กี่หมื่นบาท
ราคาหุ้น KWG เมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมาปิดที่ 1.78 บาท
การเพิ่มทุนครั้งนี้ ถือเป็นเทศกาลประจำปีของ KWG ซึ่งผู้ถือหุ้นรายย่อยที่เคยถมเงินเพิ่มทุนลงไปแล้วต้องเจ็บเนื้อเจ็บตัวแทบทุกที จะ “เข็ด” กับหุ้นตัวนี้หรือไม่
