9 บริษัทอุปกรณ์ก่อสร้างและตกแต่งบ้าน ผนึกกำลังสร้างกลุ่ม The Connext เสริมศักยภาพด้านการตลาด แชร์ฐานข้อมูลลูกค้า หวังหนุนยอดขายทั้งกลุ่มในปี 63 โต 20-30% จากยอดขายรวม 9 บริษัท 3,500 ล้านบาท
น.ส.นันทรัตน์ ตันติวัฒน์พานิช กรรมการบริษัท และผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายโครงการและฝ่ายต่างประเทศ บริษัท เคนไซ ซีรามิคส์ อินดัสตรี้ จำกัด ในฐานะผู้แทนกลุ่ม เดอะ คอนเน็กซ์ (the connext) เปิดเผยว่า เดอะ คอนเน็กซ์ เกิดจากการรวมตัวของบริษัทอุปกรณ์ก่อสร้างและตกแต่งบ้าน 9 บริษัทที่มีสินค้าไม่เหมือนกัน มารวมตัวกันเพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำกิจกรรมการด้านตลาดร่วมกัน เช่น การแชร์ฐานข้อมูลลูกค้าร่วมกัน สร้างเครือข่ายด้านการตลาด การแนะลูกค้าและบอกต่อ เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการตลาดและการขาย แทนการทำตลาดเพียงรายเดียว การสร้างเครือข่าย การร่วมออกบูทในงานต่างๆ การจัดประชุมสัมมนา เป็นต้น
ทั้งนี้ การร่วมกลุ่มดังกล่าว เนื่องมาจากในปัจจุบันตลาดอสังหาริมทรัพย์มีการแข่งขันกันสูง ผู้บริโภคมีทางเลือกทั้งในประเภทสินค้าที่อยู่อาศัย ทำเลที่ตั้ง ราคา รูปแบบการดีไซน์ ไปจนถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ได้รับจากโครงการ ผู้ประกอบการต้องมองหามูลค่าเพิ่มใหม่ๆ ที่ช่วยดึงดูดความสนใจและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อให้แก่ผู้บริโภค จึงเป็นที่มาของการจัดตั้งกลุ่ม The Connext เพื่อนำเสนอนวัตกรรมและสินค้าใหม่ที่เน้นด้านคุณภาพและงานดีไซน์เกรดพรีเมียม ทั้งนำเข้าและผลิตในไทยให้แก่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
1) สถาปนิกและดีไซเนอร์ 2) ดีเวลลอปเปอร์และผู้รับเหมา และ 3) ผู้บริโภคหรือเอนด์ยูสเซอร์
โดยแต่ละบริษัทจะแชร์ข้อมูลลูกค้า รวมถึงเสนอสินค้าของกลุ่มให้แก่ลูกค้า ซึ่งโซลูชันที่ลูกค้าได้รับจาก The Connext จะช่วยสร้างความแตกต่างให้แก่โครงการของตัวเองมีเสน่ห์ ดูแปลกใหม่ทันสมัย และเพิ่มโอกาสในการขายได้มากยิ่งขึ้น
สำหรับสมาชิกของกลุ่ม The Connext ประกอบด้วย 1.บริษัท ธรรมดาเเบ็งค็อค จำกัด ผู้จัดจำหน่ายสวิตช์และปลั๊กดีไซน์แบรนด์ ART DNA ที่เน้นการออกแบบที่ “น้อยแต่มาก” ด้วยเส้นสายและสีที่เฉียบและเรียบง่าย สะท้อนอัตลักษณ์และรสนิยมที่ทันสมัยของผู้อยู่อาศัย ซึ่งได้รับรางวัลด้านการออกแบบจากเวที Red dot Design และ Good Design Awards
2.บริษัท มาซูม่า (ประเทศไทย) จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบจัดการน้ำคุณภาพครบวงจร ด้วยการผลิตและจำหน่ายเครื่องกรองน้ำ ปั๊มน้ำ เครื่องทำน้ำอุ่นน้ำร้อน หม้อต้ม และเครื่องฟอกอากาศ
3.บริษัท บี.เอฟ.เอ็ม. จำกัด ตัวแทนจำหน่ายวัสดุตกแต่งอาคารคุณภาพสูง เช่น แผ่นอะลูมิเนียมคอมโพสิตไส้กลางกันไฟ ALPOLIC/fr จาก Mitsubishi Chemical ประเทศญี่ปุ่น แผ่นลามิเนตปิดผิว (High Pressure Laminate) จากยุโรป ระบบฝ้าอะคูสติกและฝ้าสำเร็จรูป Armstrong และพื้นไวนิลลายไม้แบบแผ่นและแบบม้วน Tarkett และ Polystyl
4.บริษัท ดี.พี.เซรามิคส์ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านกระเบื้องเซรามิก สุขภัณฑ์ ชุดครัว และสินค้าตกแต่งบ้าน ทั้งจากในประเทศและจากต่างประเทศ ทั้ง Kohler, TOTO, Cotto, Roca, Panasonic, Viega, Munk
5.บริษัท วินเทค แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด บริษัทร่วมทุนไทย-ญี่ปุ่น ผู้ผลิต จัดจำหน่าย และส่งออกกลอนประตู ลูกบิดประตู บานพับ อุปกรณ์หน้าต่าง ประตู โช้กอัพ กุญแจมือจับ และปุ่มจับประตู Access control และ home automation มาตรฐานญี่ปุ่นภายใต้แบรนด์ VECO
6.บริษัท ฟาร์อีสท์ มาร์เบิล แอนด์ แกรนิต จำกัด ผู้ดำเนินการผลิตหินนำเข้าและหินจากต่างประเทศแบบครบวงจร เช่น หินอ่อน หินแกรนิต หินออนนิค หินลาวา หินควอร์ท หินคริสตัลไวน์ ซึ่งมีโรงงานที่ได้ตามมาตรฐานสากล โดยผลิตหินเพื่อรองรับตลาดประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน
7.บริษัท ซิลเลี่ยน อินโนเวชั่น จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์กันซึมคุณภาพสูง และผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์ พร้อมติดตั้งงานสวนแนวตั้งและสวนบนหลังคา รวมถึงวัสดุที่ใช้กับงานสวน landscape เช่น แผ่นพลาสติก Recycle ที่กักเก็บและช่วยระบายน้ำ และระบบกักเก็บและหน่วงน้ำฝน (storm water tank) และยังมีระบบพื้นยกสำหรับแผ่นหินทางเดิน และแผ่นปลูกหญ้าที่ใช้ปูพื้นถนน
8.บริษัท เคนไซ ซีรามิคส์ อินดัสตรี้ จำกัด ผู้ผลิตและส่งออกกระเบื้องเซรามิกตกแต่งสำหรับภายนอกและสระว่ายน้ำ ภายใต้แบรนด์ KENZAI กระเบื้องเคนไซ เป็นกระเบื้องคุณภาพสูงที่มีคุณสมบัติโดดเด่นเฉพาะตัวของลวดลายสวยงามและความเป็นธรรมชาติ แข็งแรงคงทนและยังได้รับรองมาตรฐานคุณภาพจากยุโรปและสหรัฐอเมริกา
9.บริษัท อินโนเวชั่น ลิฟวิ่ง จำกัด เป็นบริษัทในเครือของ บริษัทไทยเม็ททอล อลูมิเนียม จำกัด ผู้ผลิตอะลูมิเนียมเส้นครบวงจรชั้นนำในอาเซียน มีประสบการณ์ในการผลิตและส่งออกอะลูมิเนียมเส้น ตามมาตรฐานสากลมานานกว่า 35 ปี โดยได้ริเริ่มระบบอะลูมิเนียมสำเร็จรูปเพื่องานสถาปัตยกรรมภายนอก ภายใต้แบรนด์ อัลเน็กซ์ เช่น โรงจอดรถ กันสาด ราวกันตก ระแนง Façade ประตูรั้ว มุ่งเน้นความสวยงามเชิงสถาปัตยกรรม ควบคู่กับความปลอดภัยแข็งแรงทางด้านวิศวกรรม
น.ส.นันทรัตน์ กล่าวต่อว่า สมาชิกทั้ง 9 บริษัทของ The Connext มั่นใจว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมและสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจของแต่ละบริษัท ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้น จากฐานลูกค้าที่ใหญ่ขึ้น ทั้งยังเป็นกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ที่มีรสนิยมและความสนใจในเรื่องคุณภาพและงานดีไซน์เช่นเดียวกัน โดยมีการคาดการณ์ว่า The Connext จะช่วยเพิ่มยอดขายให้แก่แต่ละบริษัทได้ 20-30%
“สำหรับกิจกรรมที่ The Connext จะดำเนินการให้แก่ลูกค้าเป้าหมายที่เป็นสถาปนิกกว่า 10,000 ราย จะเน้นเป็นงานในเชิงให้ความรู้ เพื่ออัปเดตผลิตภัณฑ์และเทรนด์ด้านการออกแบบ ทั้งรูปแบบงานสัมมนา การเยี่ยมชมโครงการหรือโรงงานต่างๆ ในต่างประเทศ การเชิญวิทยากรผู้มีชื่อเสียงมาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการและนักออกแบบชาวไทย รวมไปถึงงานประเภทเน็ตเวิร์กกิ้ง (Networking Event) ที่จะช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจให้แก่ลูกค้าสมาชิกของกลุ่ม” น.ส.นันทรัตน์ กล่าว
