เชียงราย – พ่อแม่ลูกครอบครัว “อรุณานนท์ชัย” เปิดใจลงทุนซื้อ-รีโนเวท รร.ลิตเติ้ลดั๊ก ของอดีต ส.ส.ดังที่เปลี่ยนมือ-ถูกปล่อยทิ้งร้างมานาน ปั้นเป็น “เฮอริเทจ เชียงราย” โรงแรมใหญ่สุดกลางเมืองพ่อขุนฯ เปิดบริการเต็มที่ 100%แล้ว
นายสุนทร อรุณานนท์ชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) และนางอารยา อรุณานนท์ชัย ประธานกรรมการบริหารบริษัทเอ็ส แอนด์ เอ เอ็นเทอร์ไพรส์ จำกัด บริษัทในเครือ โรงงานน้ำตาลราชบุรี พร้อมทายาทคือ ดร.จุฑามาศ-นายตรีทิพ อรุณานนท์ชัย บุตรชายและบุตรสาว ได้แถลงเปิดตัวกิจการโรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย อย่างเป็นทางการรับไฮซีซันนี้
เริ่มจากนางอารยาสนใจที่จะทำโรงแรมในเชียงราย เดือนกรกฎาคม 59 จึงนำบริษัทเอสแอนด์เอ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด เข้าซื้อโรงแรมลิตเติ้ลดั๊ก ที่เคยเป็นของนายทนง ศิริปรีชาพงษ์ หรือเสี่ย ป.เป็ด อดีต ส.ส.นครพนม สร้างมานาน 30 กว่าปี กระทั่งมีปัญหาล้มละลาย-เปลี่ยนมือเจ้าของหลายรายจนมีการปล่อยทิ้งร้างหลายปี
จากนั้นได้ทุ่มทุนพัฒนาจนสามารถเปิดได้ระดับหนึ่งเมื่อปลายปี 2561 กระทั่งปัจจุบันสามารถเปิดให้บริการได้อย่างเต็มที่แล้วทั้ง 13 ชั้น 321 ห้อง รวมทั้งห้องประชุมขนาดใหญ่ที่สุดในเชียงราย ที่จุคนได้กว่า 1,500 คน และยังมีห้องประชุมขนาดกลางและเล็กรวมกันอีก 6 ห้อง ที่รีโนเวทในรูปแบบล้านนาร่วมสมัยที่งดงาม
นางอารยา กล่าวว่าครอบครัวที่อบอุ่นของเราเห็นว่าเชียงรายเป็นเมืองที่มีวัฒนธรรมงดงาม ภูมิประเทศร่มรื่นและผู้คนก็น่ารักอัธยาศัยดีมาก รวมทั้งมีความเป็นมายาวนาน จึงตั้งใจว่าเมื่อเกษียณจากการงานแล้วอยากมีบ้านเพื่ออยู่กันอย่างอบอุ่นและร่วมพัฒนาเชียงราย กระทั่งปี 2559 ก็มีเหตุไม่คาดฝันให้ต้องซื้อโรงแรมแห่งนี้และเราก็เห็นว่ามันมีขนาดใหญ่มาก
แต่เมื่อคำนึงถึงเป้าหมายจึงเห็นว่าจะใช้ขนาดในการตกแต่งและรวบรวมคุณค่าที่ดีงามของเชียงรายได้มากกว่า โดยให้อาจารย์คงศักดิ์ ยุกตะเสวี ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (สถาปัตยกรรมภายใน) ประจำปี 2561 และบริษัทลีโอ อินเตอร์เนชั่นแนล ดีไซน์ กรุ๊ป จำกัด ตกแต่งโรงแรมด้วยรูปแบบศิลปะล้านนาร่วมสมัยดังกล่าว ซึ่งตนดีใจมากที่ได้มีโอกาสลงทุนและพัฒนาโรงแรมแห่งนี้ให้เป็นที่พัก ประชุมสัมมนาและท่องเที่ยว
“คอนเซ็ปต์คือให้คนมาแล้วประทับใจ เมื่อสัมผัสกับบริการและเมืองเชียงรายแล้วอยากมาอีกอีก ส่วนคนพื้นที่ก็ยินดีให้บริการทั้งการประชุมสัมมนา งานเลี้ยง แต่งงาน ฯลฯ ซึ่งตนให้ความสำคัญกับงานบริการ คำนึงถึงการดูแลสิ่งแวดล้อม อาหารอร่อย ฯลฯ
นางอารยา กล่าวอีกว่าแม้ว่าในปัจจุบันจะมีธุรกิจอื่นหลายอย่างแต่เมื่อตั้งเป้าหมายแล้วก็จะมุ่งมั่นทำให้ดีที่สุด เพราะถ้าพัฒนารูปแบบธรรมดาก็ไม่โดดเด่นเพราะปัจจุบันมีโรงแรมต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย แต่เรามีโรงแรมขนาดที่ใหญ่โตและยังใช้ชื่อว่าเฮอริเทจจึงจำเป็นต้องทำให้มีเอกลักษณ์ เพื่อดึงดูดผู้คนและให้เป็นส่วนหนึ่งในการรับแขกบ้านแขกเมืองทั้งในและต่างประเทศที่มาเชียงรายด้วย
ขณะเดียวกันตนและนายสุนทรก็มีทายาท 3 คน กรณีของ ดร.จุฑามาศ นั้นไปอยู่อังกฤษตั้งแต่อายุ 11 ปี และตรีทิพก็ไปอยู่ยุโรปหลายประเทศตั้งแต่อายุ 12 ปี จึงอยากให้กลับมาทำงานในประเทศไทย ซึ่งหากว่าทำได้และพอใจก็จะได้รับช่วงทำต่อได้เลยโดยลักษณะจะค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งตนก็มั่นใจว่าทายาทสามารถสืบทอดธุรกิจของเราได้เป็นอย่างดีภายใต้ทีมงานบริหารที่ดีต่อไป
ด้านนายสุนทร กล่าวว่าโรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย แห่งนี้ถือว่าเป็นธุรกิจที่ครอบครัวเราเข้ามาลงทุนเอง ซึ่งครั้งแรกที่เข้าซื้อพบว่าเป็นโรงแรมเก่าและถูกทิ้งร้างไว้มานาน ทำให้การพัฒนาปรับปรุงยากยิ่งกว่าการสร้างโรงแรมขึ้นมาใหม่เสียอีก แต่เมื่อมองในแง่ของขนาดพบว่าเป็นโรงแรมขนาด 40,000 ตารางเมตร บนเนื้อที่กว่า 22 ไร่ครึ่ง ทั้งๆ ที่โรงแรมโดยทั่วไปใช้ไม่เกิน 10,000 ตารางเมตร และไม่เกิน 5 ไร่ ทำให้เห็นว่าสามารถเก็บคุณค่าต่างๆ ตามรูปแบบที่วางไว้ได้มากกว่าเราจึงมุ่งพัฒนาอย่างเต็มกำลัง ทั้งระบบไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศ ฯลฯ ของเดิมที่ใช้การไมได้แล้วและอื่นๆ ที่ต้องปรับปรุงใหม่ทั้งหมด
“โต๊ะเก้าอี้ทุกตัวออกแบบสร้างเองหมด ไม่ได้ยกมาเป็นชุด การออกแบบลวดลายห้องนอนหมอนต่างๆ ล้วนใช้ความละเอียด ซึ่งเดิมตั้งเป้าจะเปิดบริการตั้งแต่ปลายปี 2559 แต่ก็เปิดไม่ทันและได้โหมพัฒนาตลอดปี 2560-2561 โดยใช้บริษัท 3 รายแบ่งกันดำเนินการรายละ 100 กว่าห้องและมีบริษัทกลางอีก 1 ราย ใช้ทีมออกแบบศิลปะเดียวกับไอคอนสยาม พัฒนาระบบเครื่องเสียงมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ระบบไอที-อินเทอร์เน็ตอีกกว่า 100 ล้านบาท ฯลฯ เรียกได้ว่าเราทุ่มทุนครั้งเดียวเพื่อให้เสร็จสมบูรณ์เต็มที่”
นายสุนทร บอกว่าเราลงทุนไปมากแต่ในต่างจังหวัดนั้นจะคิดค่าที่พักหรือบริการอื่นๆ แพงไม่ได้ ซึ่งส่วนตัวก็มองไม่ออกว่าจะได้ทุนคืนแต่เราทำเพื่อเชียงรายให้ดีที่สุด อย่างน้อยๆ ก็ทำให้เชียงรายมีโรงแรมระดับห้าดาว นอกจากนี้จะเห็นว่าโรงแรมมีที่ตั้งติดกับทั้งถนนพหลโยธินสายเก่าและใหม่ 2 มีเนื้อที่กว้างใจกลางเมือง มีอาคารสูงด้วยห้องพัก 321 ห้อง ซึ่งด้วยกฎหมายในปัจจุบันแม้จะมีเงินก็สร้างแบบนี้ไม่ได้ ในอนาคตยังจะมีโครงการร่วมพัฒนากับเชียงราย มากมาย เช่น จัดแสดงสินค้าพื้นเมือง ร่วมกับหน่วยงานราชการจัดงานต่างๆ เป็นต้น
“รวมๆ แล้วเรากำลังลงทุนไม่ใช่เพื่อเร็วๆ นี้แต่เพื่ออนาคต โดยอาจมองไปถึงการจัดประชุมระดับใหญ่ๆ ของอาเซียนเพราะเรามีความพร้อมเรื่องขนาดที่ใหญ่โต มีพนักงานบริการเกือบ 200 คน”
นายสุนทร กล่าวอีกว่าลูกๆ ของพวกเราล้วนต่างไปอยู่ต่างประเทศมานานหลายปีซึ่งก็อยากกลับมาเรียนรู้และทำงานร่วมกับคนไทย แต่ตนก็ยังไม่กล้าปล่อยโดยจะคอยดูแลด้วย เพราะงานโรงแรมเป็นงานบริการที่ต้องให้ผู้เข้าพักเกิดความประทับใจ ต้องคอยเอาใจเพื่อให้ได้รับความสะดวกสบาย ต้องมีความคิดดี เช่น อาหารต้องอร่อยโดยไม่จำเป็นต้องมีราคาแพงก็อร่อยได้ เป็นต้น
รวมทั้งเรายังต้องพัฒนาระบบให้ทันสมัยโดยเฉพาะคนยุคปัจจุบันใช้การจองผ่านระบบอินเทอร์เน็ตกันหมดซึ่งเราก็กำลังพัฒนาการตลาดด้านนี้อยู่ โดยอาศัยประสบการณ์การทำธุรกิจมายาวนาน 40 กว่าปี ขับเคลื่อนอย่างระมัดระวังและไม่ฟุ่มเฟือย และวางเป้าเป็นธุรกิจระยะยาวเพราะตนเคยทราบจากโรงแรมริมแม่น้ำโขงแห่งหนึ่งว่ากว่าจะได้ทุนคืนใช้เวลาร่วม 16 ปี แต่เราก็เป็นกลุ่มที่มีสายป่านยาวและได้รับความน่าเชื่อถือหรือเครดิตระดับ 3 เอจึงไม่เป็นห่วงในเรื่องเงินทุน
ครอบครัวอรุณานนท์ชัย ยังแถลงอีกว่าช่วงที่เปิดกิจการระดับหนึ่งปลายปี 2561 เคยประสบปัญหาการเข้าพักเพราะภาคเหนือเกิดวิกฤติหมอกควันและฝุ่นละออง หลังจากนั้นก็ดีขึ้นตามลำดับและคาดหวังว่าอีก 2 เดือนนับจากนี้สถานการณ์จะดีขึ้น แต่อัตราการเข้าพักก็ยังน้อย อย่างไรก็ตามเชื่อว่าเพราะเป็นโรงแรมใหม่ที่กำลังทำการตลาดและตั้งเป้าว่าในปี 2563 จะดีขึ้นอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ไม่มีการเปิดเผยถึงเงินลงทุนซื้อและปรับปรุงโรงแรมใหม่ดังกล่าวแต่อย่างใด แต่มีรายงานว่ามีการใช้เงินทุนซื้อกิจการซึ่งเคยเป็นโรงแรมเก่าแห่งนี้ประมาณ 300 ล้านบาท และมีการปรับปรุงใหม่อีกหลายร้อยล้านบาทหรือมากกว่าเงินลงทุนซื้อกิจการด้วยซ้ำ
