ศูนย์ข่าวขอนแก่น - “จงดีแทร็กเตอร์” คว้าสัมปทานที่ดินตลาดรถไฟขอนแก่น ทุ่มงบ 600 ล้านบาทรีโนเวตใหม่เป็นตลาดผลไม้และอาหารทะเลโมเดิร์นสุดในอีสาน ขึ้นอาคารพาณิชย์ 90 ยูนิต เริ่มสร้าง เม.ย. 63 มั่นใจโครงการไปโลดจากอานิสงส์รถไฟความเร็วสูง
โครงการให้สัมปทานที่ดินทำเลทอง สถานีรถไฟขอนแก่นที่มีรวมกว่า 108 ไร่ คืบหน้าแล้ว ล่าสุดพื้นที่โซนด้านหน้าสถานีฯ เนื้อที่ 18 ไร่ หรือที่เรียกกันติดปาก “ตลาดรถไฟขอนแก่น” การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้ผู้สัมปทานรายใหม่เข้ามาพัฒนาพื้นที่แล้วเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ฝ่ายบริหารทรัพย์สิน การรถไฟฯ พร้อมบริษัทที่ปรึกษาได้จัดประชุมโครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบเชิงความคิด โครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณอาคารบ้านพักพนักงาน อาคารที่ทำการและสนามกอล์ฟสถานีขอนแก่นไปแล้วเมื่อช่วงต้นปี ณ โรงแรมวิวิช ขอนแก่น โดยระบุว่าพื้นที่ย่านสถานีรถไฟขอนแก่น ประกอบด้วย พื้นที่บริเวณอาคารบ้านพักพนักงาน อาคารที่ทำการ สนามกอล์ฟสถานีรถไฟขอนแก่น รวม 108 ไร่ เป็นหนึ่งในผืนที่ดินที่มีศักยภาพพัฒนาเพิ่มรายได้ให้การรถไฟฯ เพื่อรองรับโครงการรถไฟทางคู่ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ระบบขนส่งรถไฟรางเบา และโครงการรถไฟความเร็วสูงในอนาคต โดยมีเป้าหมายพัฒนาเป็นศูนย์แสดงสินค้า โรงแรม สวนสนุก ฯลฯ
ล่าสุด นายณจาวิชย์ ทัตหิรัญรัตน์ ผู้จัดการโครงการตลาดรถไฟขอนแก่น พร้อมด้วย ผศ.ดร.รัฐการ บัวศรี ที่ปรึกษาโครงการตลาดรถไฟขอนแก่น ได้ให้ข้อมูลแก่สื่อมวลชนถึงการเตรียมความพร้อมเข้าพัฒนาพื้นที่ตลาดรถไฟขอนแก่นทั้งหมด 18 ไร่ หลังได้รับสิทธิ์เข้าบริหารจัดการพื้นที่จากการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อจัดทำโครงการพัฒนาที่ดินเชิงธุรกิจบริเวณย่านสถานีรถไฟขอนแก่น
นายณจาวิชย์ ทัตหิรัญรัตน์ ผู้จัดการโครงการตลาดรถไฟขอนแก่น เปิดเผยว่า ขณะนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย โดยสถานีรถไฟขอนแก่นได้ส่งมอบพื้นที่เช่าให้กับ หจก. จงดีแทร็กเตอร์ ในฐานะผู้เช่ารายใหม่ สัญญาการครอบครองสิทธิ 34 ปี โดยแผนระยะแรกคือการพัฒนาพื้นที่ 4 ปีแรกจะปรับปรุงพื้นที่ทั้งหมด 18 ไร่ ทำไปทีละขั้น ในจำนวนนี้ 4 ไร่ด้านหน้าใกล้วงเวียนรถไฟจะกันพื้นที่ให้เป็นที่จอดรถยนต์ รองรับรถได้มากกว่า 500 คัน
“การบริหารพื้นที่ตลาดรถไฟขอนแก่นจะให้ความสำคัญการออกแบบพื้นที่ คำนึงถึงความต้องการของผู้ประกอบการรายเดิม รวมถึงลูกค้าของตลาดรถไฟขอนแก่น ที่ผ่านมาเราได้สำรวจความต้องการและรับฟังทุกปัญหาจนนำมาสู่แผนพัฒนาและแนวทางพัฒนาที่สอดรับกับสภาพเมืองและผู้ประกอบการรายเดิม ด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการเชื่อมโยงกับโครงการรถไฟความเร็วสูงของรัฐบาลได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังเชื่อมโยงระบบขนส่งมวลชนอื่นของเมืองขอนแก่นอีกด้วย” นายณจาวิชย์กล่าว และว่า
ภายในแผนพัฒนาตลาดรถไฟขอนแก่นจะสร้างอาคารพาณิชย์ 90 ยูนิต พร้อมอาคารโดมขนาดใหญ่พื้นที่รวมกว่า 9,000 ตารางเมตร ให้เป็นพื้นที่ค้าส่งและค้าปลีก ให้ผู้ค้ารายย่อยมาเช่าทำการค้า โดยจัดสรรพื้นที่ห้องน้ำ ที่จอดรถ และสิ่งอำนวยความสะดวกด้านต่างๆ ครบครัน ตลาดรถไฟขอนแก่นโฉมใหม่นี้มีกำหนดลงเสาเอกในราวเดือนเมษายน 2563 เมื่อแผนพัฒนาแล้วเสร็จจะเป็นตลาดค้าส่ง ค้าปลีก ผักผลไม้ และอาหารทะเล ที่ทันสมัยที่สุดและสวยงามที่สุดในภาคอีสาน
ด้าน ผศ.ดร.รัฐการ บัวศรี ที่ปรึกษาโครงการตลาดรถไฟขอนแก่น กล่าวเสริมว่า ภายหลังได้รับสิทธิ ทาง หจก.จงดีแทร็กเตอร์ได้เข้าไปพูดคุยกับผู้ประกอบการค้าขายรายเดิมที่มีอยู่กว่า 200 รายให้เข้าใจและรับทราบถึงแผนพัฒนาที่กำลังจะเกิดขึ้น สิ่งสำคัญที่ต้องการสื่อให้สังคมและผู้ค้าในตลาดรถไฟขอนแก่นรับทราบนั้น คือตลาดรถไฟขอนแก่นจะไม่ย้ายไปไหน ยังตั้งอยู่จุดเดิม
เพียงแต่ช่วงการปรับปรุงพัฒนาพื้นที่โครงการอาจต้องย้ายพ่อค้าและแม่ค้าจากจุดเดิมไปอยู่ฝั่งตรงข้ามตลาด คือบริเวณลานอเนกประสงค์ของสถานีรถไฟขอนแก่น ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อการค้าขายแต่อย่างใด
การก่อสร้างระยะแรก 4 ปี หจก.จงดีแทร็กเตอร์จะเน้นก่อสร้างในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกและพัฒนาระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ให้แล้วเสร็จ หลังจากนั้นจะเป็นการพัฒนาพื้นที่การค้าขายสำหรับให้บริการผู้ค้ารายเดิมและรายใหม่ที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการตลาดฯ โครงการนี้ใช้งบลงทุนกว่า 600 ล้านบาท ผู้ประกอบการเดิมจะได้รับสิทธิเลือกพื้นที่เช่าค้าขายเป็นกลุ่มแรก
“มั่นใจโครงการนี้บรรลุตามเป้าหมาย เพราะเป็นทำเลทองใจกลางเมือง เป็นตลาดที่สวยทันสมัยของคนขอนแก่นอย่างแท้จริง ตลาดนี้มีพ่อค้า-แม่ค้ารายเดิมที่ค้าขายผักผลไม้มานานกว่า 30 ปี แต่ละรายก็มีฐานลูกค้าหนาแน่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จะช่วยหนุนตลาดให้เติบโตต่อไปได้ในอนาคต
ทำเลที่ตั้งตลาดรถไฟขอนแก่นนั้นถือเป็นทำเลทอง เหมาะทำธุรกิจ ไม่มีปัญหารถติด ที่สำคัญในอนาคตอันใกล้นี้จะมีโครงการรถไฟความเร็วสูง จะส่งผลดีต่อฐานลูกค้าตลาดรถไฟขอนแก่นเติบโตอีกมาก จะขยายครอบคลุมประชากรตามเส้นทางรถไฟทั่วอีสาน, สปป.ลาว และจีนตอนใต้ สามารถแวะพัก ชอปปิ้งตลาดรถไฟขอนแก่นก่อนเดินทางต่ออีกด้วย” ผศ.ดร.รัฐการกล่าว
ทั้งนี้ ตามแผนของการรถไฟแห่งประเทศไทยมีแผนพัฒนาที่ดินในย่านสถานีรถไฟในหัวเมืองหลักทั่วประเทศ ซึ่งสถานีรถไฟขอนแก่นเป็นหนึ่งในสถานีรถไฟที่มีที่ดินที่มีศักยภาพในการพัฒนาเชิงธุรกิจ ให้สัมปทานกับภาคเอกชน เพื่อสร้างรายได้ให้แก่การรถไฟฯ โดยฝ่ายบริหารทรัพย์สินของการรถไฟฯ พร้อมบริษัทที่ปรึกษาเคยจัดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่ในการพัฒนาพื้นที่ดินรอบสถานีรถไฟขอนแก่นเมื่อต้นปี 2562 ได้รับเสียงตอบรับค่อนข้างดี
จากผลการศึกษาของศูนย์วิจัยขีดความสามารถในการแข่งขัน สำนักวิจัยสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) พบว่าพื้นที่ของสถานีรถไฟขอนแก่นที่จะนำมาพัฒนาในเชิงพาณิชย์นั้น เฉพาะที่ดินมีมูลค่าประเมินกว่า 2,800 ล้านบาท ส่วนมูลค่าการลงทุนในแต่ละโซน รวมถึงค่าใช้จ่ายรื้อย้าย ก่อสร้างที่อยู่อาศัย อาคารที่ทำการให้กับพนักงานรวม 200 ยูนิต รวมมูลค่าแล้วสูงกว่า 7,000 ล้านบาท โดยสามารถแยกพื้นที่การพัฒนาได้ทั้งหมด 5 โซน ประกอบด้วยโซน B, C, D, E และ F รวมพื้นที่ทั้งหมด 108.4 ไร่
แยกเป็น โซน B จำนวน 16.2 ไร่ จะพัฒนาเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์, โซน C จำนวน 15.6 ไร่ และโซน D จำนวน 10 ไร่ ทั้ง 2 โซนจะพัฒนาให้เป็นโรงแรม ศูนย์ประชุมและการแสดงสินค้า, โซน E พื้นที่กว่า 58.6 ไร่ จะพัฒนาให้เป็นสวนสนุกขนาดย่อมทันสมัยใจกลางเมือง รวมถึงเป็นพื้นที่สันทนาการ และโซนสุดท้ายโซน F ขนาด 8 ไร่ พัฒนาให้เป็นที่พักอาศัยของพนักงานการรถไฟฯ และกลุ่มอาคารสำนักงาน โดยโซน F จะได้รับการพัฒนาขึ้นก่อนโซนอื่น
สำหรับ หจก.จงดีแทร็กเตอร์ เป็นธุรกิจย่อยของบริษัท ไทยพิพัฒน์ฮาร์ดแวร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายวัสดุก่อสร้างเก่าแก่ของเมืองขอนแก่นมานานมากกว่า 40 ปี นับเป็นบริษัทค้าวัสดุก่อสร้างที่ประสบผลสำเร็จสูงมาก ขยายสาขาร้านค้าวัสดุก่อสร้างไป ยึดทำเลถนนสายหลักของเมืองขอนแก่นหลายสาขา รวมถึงขยายธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้างไปยังจังหวัดอุดรธานี และแตกไลน์ธุรกิจไปยังธุรกิจที่เกี่ยวข้องอีกด้วย