xs
xsm
sm
md
lg

เมืองไทย แคปปิตอล กำไรทะลุเป้า 55%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เมืองไทย แคปปิตอล อวดผลงานไตรมาส 1/61 กำไรพุ่งแรง 55.59% ทะลุเป้าหมาย จากยอดปล่อยสินเชื่อใหม่เพิ่มขึ้น 16,875 ล้านบาท พร้อมขยายสาขาคึกคัก ขณะที่ควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายได้ดีหนุนการเติบโตอย่างโดดเด่น พร้อมคุม NPL ได้ไม่เกินระดับ 1.50% ด้าน “ชูชาติ เพ็ชรอำไพ” มั่นใจรายได้ปีนี้แตะ 1 หมื่นล้านบาท และยอดสินเชื่อใหม่ทุบสถิตินิวไฮต่อเนื่อง เชื่อ 3 ปี แนวโน้มธุรกิจยังเป็นขาขึ้น

นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2561 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 834 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 536 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 55.59% โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 2,348 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.22% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,563 ล้านบาท เนื่องจากยอดสินเชื่อใหม่เติบโตมากขึ้น โดยมีสินเชื่อคงค้างไตรมาสแรกอยู่ที่ระดับ 3.8 หมื่นล้านบาท จากความต้องการสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินเชื่อส่วนบุคคล และนาโนไฟแนนซ์

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ สามารถรักษาระดับของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ไว้ในระดับ 1.29% ส่งผลให้บริษัทมีรายได้ดอกเบี้ยรับเพิ่มขึ้นด้วย

“ภาพรวมการดำเนินธุรกิจไตรมาส 1/2561 เติบโตเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยจะมีการเติบโตระดับ 40% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และสามารถควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้รายได้ หรือ NPL ให้อยู่ระดับไม่เกิน 1.5% รวมทั้งการเปิดสาขาใหม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยปัจจุบันบริษัทฯได้เปิดสาขาเพิ่มแล้ว นับตั้งแต่ต้นปี สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2561 จำนวน 214 แห่ง จากเป้าหมายที่จะเปิดสาขาจำนวน 600 สาขาภายในสิ้นปีนี้ จึงรวมเป็น จำนวนสาขาทั้งสิ้น 2,637 แห่ง” นายชูชาติ กล่าว

ทั้งนี้ การที่ไตรมาส 1 ปีนี้ เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ทำให้มั่นใจว่า ภาพรวมทั้งปีจะสามารถเดินหน้าได้ตามแผนที่วางไว้ คือ เติบโต 40% โดยปีนี้คาดว่าบริษัทจะมีรายได้ทะลุ 1 หมื่นล้านบาท และคาดกำไรสุทธิปีนี้จะเติบโตทำสถิติใหม่อย่างต่อเนื่อง จากปีก่อนที่ทำได้ 2,501 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่ที่ยังเติบโตได้ดี

สำหรับยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่ปีนี้ น่าจะทำสถิติใหม่เช่นกัน ประเมินว่าจะทำได้เกิน 8 หมื่นล้านบาท หรือเติบโตมากกว่า 40% จากปีก่อน ขณะที่ปี 2562 และปี 2563 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตเฉลี่ยมากกว่า 35% ซึ่งมีปัจจัยหนุนจากการลงทุนของภาครัฐที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นการจับจ่ายของภาคประชาชน ซึ่งสินเชื่อก็จะดีขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นธุรกิจของ MTC น่าจะยังเป็นขาขึ้นอย่างน้อยอีก 3 ปี

นายชูชาติ กล่าวว่า การที่ภาครัฐออก พ.ร.บ. กำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงิน ฉบับใหม่นั้น มีความชัดเจนมากขึ้น โดยไม่ได้จำกัดดอกเบี้ยไว้ที่ 15% ตามที่นักลงทุนมีความกังวล แต่ให้คิดดอกเบี้ยรวมค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ และเมื่อมีการบังคับใช้จะส่งผลดีกับทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นการดูแลให้การให้บริการทางการเงินมีคุณภาพ ประชาชนได้รับการดูแลไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบจากกกลุ่มทุนนอกระบบ ที่สำคัญ คือ การก่อเกิดหน่วยงานกำกับดูแลที่ชัดเจน ทำให้ผู้ประกอบการทำงานง่ายขึ้นด้วย และมีความเท่าเทียมในการดำเนินธุรกิจ

นอกจากนี้ กรณีที่มาตรฐานบัญชีใหม่ IFRS9 จะไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ เนื่องจากปัจจุบัน บริษัทมีการตั้งสำรองสูงอยู่แล้วประมาณ 260% มากกว่ากลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่อยู่เฉลี่ย 120%

อนึ่ง ในที่ประชุมผู้ถือหุ้นล่าสุด ได้ลงมติอนุมัติให้บริษัทเปลี่ยนชื่อใหม่ จากบริษัท เมืองไทยลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ MTLS เป็น บริษัท เมืองไทยแคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC พร้อมอนุมัติจ่ายเงินปันผลในงวดผลการดำเนินงานปี 2560 โดยจ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 0.18 บาท พร้อมจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดในวันที่ 14 พฤษภาคม 2561


กำลังโหลดความคิดเห็น