xs
xsm
sm
md
lg

บล. เออีซี มองหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบ แนะเก็งกำไรระยะสั้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บล.เออีซี (AECS) ประเมินหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1,760-1,795 จุด เหตุกังวลการประกาศรายงานภาวะตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกสะท้อนถึงแนวโน้มการปรับตัวของอัตราเงินเฟ้อ ขณะที่ตลาดหุ้นไทยในเดือน เม.ย. คาดยังผันผวนสูงและทิศทางลงเป็นต่อ ขาดปัจจัยหนุน ด้านฝ่ายวิจัย แนะเก็งกำไรระยะสั้น ชูหุ้นพลังงาน อาทิ PTT-PTTEP และแบงก์ อาทิ KBANK-SCB-BBL-TMB ตัวนำตลาด

บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AECS เปิดเผยถึงทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในช่วงสัปดาห์นี้ (2-5 เม.ย.) โดยทางฝ่ายวิจัยมองว่า ตลาดยังคงให้น้ำหนักกับการประกาศรายงานภาวะตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ที่มีกำหนดเผยแพร่คืนวันศุกร์ที่ 6 เม.ย. นี้ ซึ่งเป็นปัจจัยที่สะท้อนถึงแนวโน้มการปรับตัวของอัตราเงินเฟ้อ และเป็นตัวแปรสำคัญที่เฟดใช้เป็นเป้าหมายในการดำเนินนโยบายทางการเงิน โดยล่าสุด Consensus คาดการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่ง ชะลอลงจากเพิ่มขึ้น 313,000 ตำแหน่ง และอัตราการจ้างงานคาดลดลงสู่ 4% จาก 4.1% ในเดือนก่อนหน้า

ทั้งนี้ ทางฝ่ายวิจัยมองว่า หากตัวเลขดังกล่าวออกมาดีกว่าที่ Consensus คาดการณ์ อาจส่งผลให้ตลาดกลับมากังวลต่อทิศทางการปรับตัวของอัตราเงินเฟ้อที่เร็วขึ้น กดดันให้ Bond Yield สหรัฐฯ ดีดตัวสูง และทำให้เฟดพิจารณาการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อสกัดอัตราเงินเฟ้อ กดดันการฟื้นตัวของตลาดหุ้นต่างประเทศ

ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทย ช่วงเดือน เม.ย. มองว่า ยังขาดปัจจัยหนุนภายในประเทศ โดยแกว่งตัวในกรอบแคบ ๆ อีกทั้งยังถูกแรงกดดันจากปัจจัยลบในต่างประเทศ ส่งผลให้ภาคการลงทุนยังคงผันผวนอย่างต่อเนื่อง โดยให้กรอบการลงทุนแนวรับ และแนวต้าน ไว้ที่ระดับ 1,760-1,795 จุด โดยเน้นกลยุทธ์รายสัปดาห์ เหมาะสมสำหรับการกำไรระยะสั้น

สำหรับกลยุทธ์ลงทุนแนะนำว่า หาก SET ปิดหลุด 1,760 จุด แนะนำให้ Stop Loss และ Wait &See เนื่องจากมองดัชนีมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบระดับ 1,730 จุด แต่หากดัชนีสามารถยืนเหนือระดับ 1,760 จุด แนะนำ “ทยอยขาย หากมีกำไร และทยอยซื้อ” แนะนำหุ้นกลุ่มพลังงาน อาทิ PTT, PTTEP เนื่องจากได้อานิสงส์ราคาน้ำมัน ยังทรงตัวสูง และไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นใหม่

นอกจากนี้ ยังแนะนำหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ อาทิ KBANK, SCB, BBL, TMB เนื่องจากเริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัว หลังจากที่ราคาปรับตัวลดลงในช่องก่อนหน้าจากแรงกดดันสงครามค่าฟี พร้อมทั้งยังคงแนะนำหุ้นกลุ่ม Domestic Play อาทิ BCH, RJH, MINT, ERW เนื่องจากมองว่ายังมีอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่ง สำหรับหุ้นที่เตรียม Div. Yield เกิน 3% โดยจะขึ้น XD เม.ย.-พ.ค. นี้ ได้แก่ KKP, AIT, SC, AP, LH


กำลังโหลดความคิดเห็น