ตัวเลขหนี้ของบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น EARTH ดูแล้วน่าตกใจ โดย ล่าสุดมีจำนวนทั้งสิ้น 1.52 แสนล้านบาท ตามรายงานของบริษัท อีวาย คอร์ปอเรท แอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด ผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ
บริษัท อีวาย คอร์ปอเรท ฯ รายงานว่า มีเจ้าหนี้ยื่นขอรับการชำระหนี้จาก EARTH ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ จำนวนทั้งสิ้น 2,433 ราย วงเงินรวมทั้งสิ้น 1.52 แสนล้านบาท ประกอบด้วยสถาบันการเงิน หนี้ตั๋วแลกเงิน หนี้หุ้นกู้ หนี้ที่เกิดจาก การค้ำประกันการชำระหนี้ของ EARTH ต่อสถาบันการเงิน หนี้ค่าเสียหายและหนี้การค้าอื่น ๆ
แต่ เจ้าหนี้หลายรายที่ขอรับการชำระหนี้ ไม่ได้ปรากฏอยู่ในบัญชี และ งบการเงินของ EARTH ผู้จัดทำแผนจึงยื่น คัดค้านการขอชำระหนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ จะตรวจสอบรายละเอียด การขอรับชำระหนี้และเอกสารประกอบที่เกี่ยวข้อง ก่อนมีคำสั่งว่า ภาระหนี้เหล่านั้นควรได้รับการชำระหรือไม่
ก่อนยื่นขอฟื้นฟูกิจการ ยอดหนี้ที่ EARTH เปิดเผยมีทั้งสิ้นประมาณ 26,000 ล้านบาท แต่เมื่อเปิดให้เจ้าหนี้ยื่นขอรับ การชำระหนี้ ตามขั้นตอนการฟื้นฟูกิจการ ยอดหนี้กลับพุ่งไปกว่า 1.52 แสนล้านบาท ซึ่งจะ ต้องพิสูจน์ความมีอยู่จริงของหนี้
เพราะผู้บริหาร EARTH ถูกธนาคารกรุงไทย ในฐานะเจ้าหนี้รายใหญ่ ยื่นร้องทุกข์กล่าวโทษกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในข้อหาปลอมแปลงเอกสาร การนำเข้าถ่านหินจากประเทศอินโดนิเชีย โดยเป็น ถ่านหิน “ลม” มีการออกเอกสารการขนส่ง แต่ไม่มีถ่านหินเข้ามาจริง
การปลอมแปลงเอกสารยังกล้าทำกันได้ ดังนั้นการสร้างหนี้เทียมจึงอาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งจะต้องตรวจสอบเจ้าหนี้เท็จ กันอีกครั้ง
ความล่มสลายของ EARTH ขณะนี้สรุปได้ว่า ส่วนหนึ่งเกิดจากการเล่นแร่แปรธาตุ เกิดจากการบริหารงานที่ไม่โปร่งใส ส่วนจะมีการผ่องถ่ายเงินออกไปด้วยหรือไม่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) คงอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน
แม้ก.ล.ต.ยังไม่มีการกล่าวโทษผู้บริหาร EARTH ในข้อหาใด แต่ธนาคารกรุงไทยนำร่องข้อหาปลอมแปลงเอกสารไป แล้ว ก.ล.ต.คงจะประกาศกล่าวโทษความผิดอื่น ๆ ตามมา
ผู้บริหาร EARTH อยู่ในอาการหนัก เพราะไม่รู้ว่า จะเจอคดีอะไรบ้าง แต่ นักลงทุนที่ถือหุ้น EARTH ถูกหามเข้าห้องไอซียูไปแล้ว เพราะบาดเจ็บหนัก ขาดทุนกันป่นปี้
หุ้น EARTH ถูกพักการซื้อขายตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2560 ราคาปิดครั้งสุดท้ายที่ 1.46 บาท/หุ้น มีผู้ถือหุ้นติดค้างอยู่จำนวน 7,201 ราย
EARTH เป็นหนึ่งในหุ้นฉาวโฉ่ และสร้างความเสียหายรุนแรง ให้นักลงทุนประจำปี 2560 นอกเหนือจากหุ้น บริษัท เค.ซี .พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น KC หุ้นบริษัท โพลาริส แคปปิตัล จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น POLAR หุ้นบริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น GL และหุ้น บริษัท อินเตอร์ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น IFEC
หุ้นทั้ง 5 บริษัท ร่วมกันสร้างความเสียหายให้นักลงทุน จำนวนประมาณ 67,000 ราย และเสียหายกันถึงขั้นหมดเนื้อ หมดตัว
ใครที่ติดหุ้น EARTH ถือว่าตกนรกทั้งเป็น เพราะไม่รู้ว่า จะสามารถฟื้นฟูฐานะการเงินได้หรือไม่ ต้องใช้เวลายาว นานกี่ปี หุ้นจึงจะกลับมาซื้อขายใหม่ เลือกหุ้นผิด เล่นหุ้นไม่ระวัง พอร์ตพังเอาง่าย