ผู้จัดการรายวัน 360 - "ศุลกากร" แจงผู้นำเข้ารถหรู ระบุใช้ราคาจากดีเอสไอเป็นเกณฑ์คำนวณเรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มเติมสำหรับผู้นำเข้าที่ยื่นสำแดงราคาซื้อขายที่เป็นเท็จ ยืนยันจะตามเก็บภาษี 4.2 พันล้านจากรถหรูทั้ง 250 คันที่ดีเอสไอสอบแล้วพบว่ามีการเสียภาษีนำเข้าอย่างไม่ถูกต้อง
นายชัยยุทธ คำคุณ รองอธิบดีกรมศุลกากร และโฆษกกรมศุลกากร แถลงข่าวขี้แจงกรณีที่ผู้ประกอบการนำเข้ารถหรูได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองในกรณีที่กรมศุลกากรได้ปรับเกณฑ์การคำนวณภาษีรถยนต์นำเข้าซึ่งสูงขึ้นเห็นเท่าตัวและเปลี่ยนเกณฑ์ทันทีโดยไม่แจ้งให้ผู้ประกอบการทราบล่วงหน้าว่า ที่ผ่านมาเอกชนได้ทำหนังสือร้องเรียนต่อรัฐบาลและกรมศุลกากร รวมถึงได้มีการนำบันทึกที่เป็นยันทึกภายในของกรมศุลการโดยเข้าใจว่าบันทึกดังกล่าวนั้นเป็นบันทึกที่ให้เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรสามารถตรวจสอบราคาเพื่อประเมินภาษีศุลกากรสำหรับรถยนต์ที่นำเข้าโดยเฉพาะรถหรู 4 ยี่ห้อคือเฟอร์รารี่, ลัมโบกินี่, มาเซราติ, และปอร์เช่
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการทำความเข้าใจให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง กรมศุลกากรขอชี้แจงว่าบันทึกดังกล่าวนั้นเป็นเพียงบันทึกการกำหนดเกณฑ์ราคาประเมินสำหรับรถยนต์นำเข้าที่มีการซื้อขายจริงตามข้อมูลการตรวจสอบที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ส่งมาให้กรมศุลกากรเพื่อใช้เป็นเกณฑ์ใหม่ในการประเมินภาษีศุลกากรสำหรับรถหรูที่ดีเอสไอได้ส่งคดีนำเข้ารถยนต์หรูที่หลบเลี่ยงภาษี มาให้กรมศุลกากรดำเนินการเรียกประเมินภาษี 300 คัน แต่จนถึงปัจจุบันกรมศุลกากร สามารถตรวจสอบข้อมูลเสร็จแล้ว 250 คัน โดยคิดเป็นมูลค่าภาษีศุลกากรส่วนผู้นำเข้าต้องชำระเพิ่มเติมอีก 4.2 พันล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ยังมีรถยนต์หรูที่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลราคาซื้อขายจริงจากดีเอสไออีกราว 10,000 คันที่ยังระบุไม่ได้ว่าผู้นำเข้าจะต้องเสียภาษีเพิ่มเติมให้แก่กรมศุลกากรอีกเท่าใด เนื่องจากดีเอสไอจะค่อยๆ ทยอยส่งข้อมูลมายังกรมศุลกรกรต่อไป
นายชัยยุทธ ยังย้ำด้วยว่า ราคาซื้อขายรถยนต์หรูดังกล่าวถือเป็นราคาที่ผู้ซื้อและผู้ขายได้มีการตกลงกัน และกรมศุลการไม่ทราบถึงราคาดังกล่าวในเวลาที่ได้มีการนำเข้ามาในประเทศเนื่องจากราคาได้มีการตกลงกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายเท่านั้น แต่สิ่งที่กรมศุลกากรจะสามารถทำได้ในขณะที่ผู้นำเข้าไม่สำแดงราคาตามความเป็นจริงนั้นตามหลักการของแกตต์ในเรื่องการประเมินราคาได้กำหนดให้เจ้าหน้าที่สามารถใช้ฐานข้อมูลที่มาจากเว็ปไซต์ ราคาที่เคยนำเข้า และแหล่งข้อมูลอย่างอื่นมาใช้เป็นเกณฑ์ตรวจสอบเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในเบื้องต้นได้ว่าการสำแดงราคาสินค้านำเข้านั้นผิดปกติจนเป็นเหตุชวนให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรเกิดความสงสัยหรือไม่
อย่างไรก็ตาม รองอธิบดีกรมศุลกากร ยังกล่าวถึงความรับผิดชอบของตัวผู้ซื้อรถยนต์หรูนั้น ตามกฎหมายของกรมศุลกากรจะพิจารณาตามเจตนาของผู้ซื้อว่าทราบหรือไม่ว่ารถยนต์ที่ตนได้ซื้อมานั้นได้มีการหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้า แต่หากผู้ซื้อไม่ทราบก็ถือเป็นการซื้อโดยสุจริตใจและไม่มีความผิดตามกฎหมาย สำหรับอายุความในคดีหลบเลี่ยงภาษีนำเข้านั้นจะมีอายุความ 10 ปี นับตั้งแต่มีการนำเข้ามาในประเทศ
