ผู้จัดการรายวัน360- ดีเอสไอบุกค้นรถหรูคาเขตฟรีโซนอีก 3 คัน หลังพบข้อมูลที่ถูกระบุในบัญชีโจรกรรมจากประเทศอังกฤษ พร้อมสั่งอายัดสอบโจรกรรม-เลี่ยงภาษี แฉเกลือเป็นหนอนเจ้าหน้าที่ศุลกากรบางรายส่งข้อมูลให้ขนหนีออกนอกประเทศ ส่วนลัมโบร์กินี "โดม ปกรณ์" อายัดไว้รอเจ้าตัวเอาเอกสารมาชี้แจง
วานนี้ (30 พ.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอ และพ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผบ.สำนักคดีการเงินการธนาคาร เข้าตรวจสอบรถยนต์หรูในเขตปลอดอากรบางกอกฟรีเทรดโซน ร่วมกับนายชัยยุทธ คำคุณ รองอธิบดีกรมศุลกากร หลังได้รับแจ้งข้อมูลพบรถตามบัญชีโจรกรรมจาก NaVCIS ประเทศอังกฤษ จำนวน 3 คัน ซึ่งจอดอยู่ในเขตฟรีโซน กำลังถูกขนย้ายขึ้นเรือเพื่อส่งออกไปนอกประเทศ เพื่อหลบเลี่ยงไม่ให้ถูกอายัด เบื้องต้นเป็นอำนาจหน้าที่ของศุลกากรที่ต้องดำเนินการ
โดยจากการเข้าตรวจค้นพบรถหรูทั้ง 3 คัน อยู่บนเรือขนส่ง กำลังออกจากท่าเทียบเรือ เจ้าหน้าที่จึงสั่งการให้เรือลำดังกล่าววนกลับมาจอดเทียบท่าเพื่อตรวจสอบ โดยก่อนหน้านี้ดีเอสไอตรวจสอบพบรถยนต์ปอร์เช่ ที่ถูกโจรกรรมจากประเทศอังกฤษจอดอยู่ที่ลานฟรีโซน 1 คัน ทำให้ยอดรถยนต์โจรกรรมที่ตรวจพบเพิ่มจาก 10 คันเป็น 13 คันแล้ว
ทั้งนี้ ได้มีการตั้งข้อสังเกตว่า หลังจากดีเอสไอตรวจสอบพบรถที่ถูกโจรกรรมแล้ว 10 คัน และอยู่ระหว่างสืบสวนแกะรอยรถที่ถูกโจรกรรมอีก 10 คัน โดยพบเบาะแสว่ามีรถยนต์ 3 คันยังรถอยู่ในฟรีโซนเช่นกัน จึงมีขบวนการพยายามผลักดันรถออกนอกประเทศ เพื่อไม่ให้ถูกอายัด บ่งชี้ว่าเจ้าหน้าที่ศุลกากรบางรายให้ความร่วมมือและร่วมอยู่ในขบวนการทำใบอินวอยซ์ปลอมเพื่อสำแดงเท็จ นำรถผิดกฎหมายผ่านพิธีการศุลกากร เพื่อนำรถออกขายให้กับผู้ซื้อ
ส่วนรถลัมโบกินีของนายปกรณ์ ลัม นั้น พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวว่า แม้ไม่ใช่รถที่ถูกโจรกรรมมาจากประเทศอังกฤษ แต่ถูกดีเอสไออายัดไว้ในจุดตรวจค้นที่ 9 (โชว์รูมเอกมัย เลขที่ 267/13-14 ถนนสุขุมวิท 63 คลองตันเหนือ วัฒนา กทม.) ในภาพรวม คือ ดีเอสไออายัดรถลัมโบกินี สีเขียว 2 คัน เป็นรถโจรกรรม 1 คัน และรถของ นายปกรณ์ ลัม 1 คัน ส่วนรถของ นายปกรณ์ ลัม จะมีความผิดหรือไม่ยังตอบไม่ได้ ต้องรอให้นายปกรณ์นำเอกสารมาชี้แจง
ก่อนหน้านี้ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สอบสวนและดำเนินคดีกับขบวนการหลีกเลี่ยงภาษีการนำเข้ารถยนต์หรูจากต่างประเทศ ว่า เรากำลังรวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลจากต่างประเทศที่ทางการไทยประสานงานกับแต่ละประเทศ เช่น ประเทศอิตาลี อังกฤษ เป็นต้น ซึ่งในส่วนของอังกฤษส่งข้อมูลแจ้งมาว่าเขามีรถยนต์หรูสูญหายไป 40 กว่าคัน ซึ่งฝ่ายไทยกำลังไปตรวจสอบให้ ถ้าพบเจอ ก็ต้องดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องไปตามกฎหมาย
"ผมได้มอบนโยบายแก่ ดีเอสไอ ไปแล้วว่าการสอบสวนเรื่องนี้ ต้องดำเนินการอย่างเท่าเทียมกัน ทุกอย่างต้องเป็นไปตามหลักฐานและข้อเท็จจริงที่มีอยู่"
เมื่อถามว่าจะดำเนินคดีกับข้าราชการระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยหรือไม่ นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของดีเอสไอ อย่างไรก็ตาม ตนทราบมาว่า สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้เข้ามาร่วมตรวจสอบอีกทางหนึ่งด้วย
วานนี้ (30 พ.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอ และพ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผบ.สำนักคดีการเงินการธนาคาร เข้าตรวจสอบรถยนต์หรูในเขตปลอดอากรบางกอกฟรีเทรดโซน ร่วมกับนายชัยยุทธ คำคุณ รองอธิบดีกรมศุลกากร หลังได้รับแจ้งข้อมูลพบรถตามบัญชีโจรกรรมจาก NaVCIS ประเทศอังกฤษ จำนวน 3 คัน ซึ่งจอดอยู่ในเขตฟรีโซน กำลังถูกขนย้ายขึ้นเรือเพื่อส่งออกไปนอกประเทศ เพื่อหลบเลี่ยงไม่ให้ถูกอายัด เบื้องต้นเป็นอำนาจหน้าที่ของศุลกากรที่ต้องดำเนินการ
โดยจากการเข้าตรวจค้นพบรถหรูทั้ง 3 คัน อยู่บนเรือขนส่ง กำลังออกจากท่าเทียบเรือ เจ้าหน้าที่จึงสั่งการให้เรือลำดังกล่าววนกลับมาจอดเทียบท่าเพื่อตรวจสอบ โดยก่อนหน้านี้ดีเอสไอตรวจสอบพบรถยนต์ปอร์เช่ ที่ถูกโจรกรรมจากประเทศอังกฤษจอดอยู่ที่ลานฟรีโซน 1 คัน ทำให้ยอดรถยนต์โจรกรรมที่ตรวจพบเพิ่มจาก 10 คันเป็น 13 คันแล้ว
ทั้งนี้ ได้มีการตั้งข้อสังเกตว่า หลังจากดีเอสไอตรวจสอบพบรถที่ถูกโจรกรรมแล้ว 10 คัน และอยู่ระหว่างสืบสวนแกะรอยรถที่ถูกโจรกรรมอีก 10 คัน โดยพบเบาะแสว่ามีรถยนต์ 3 คันยังรถอยู่ในฟรีโซนเช่นกัน จึงมีขบวนการพยายามผลักดันรถออกนอกประเทศ เพื่อไม่ให้ถูกอายัด บ่งชี้ว่าเจ้าหน้าที่ศุลกากรบางรายให้ความร่วมมือและร่วมอยู่ในขบวนการทำใบอินวอยซ์ปลอมเพื่อสำแดงเท็จ นำรถผิดกฎหมายผ่านพิธีการศุลกากร เพื่อนำรถออกขายให้กับผู้ซื้อ
ส่วนรถลัมโบกินีของนายปกรณ์ ลัม นั้น พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวว่า แม้ไม่ใช่รถที่ถูกโจรกรรมมาจากประเทศอังกฤษ แต่ถูกดีเอสไออายัดไว้ในจุดตรวจค้นที่ 9 (โชว์รูมเอกมัย เลขที่ 267/13-14 ถนนสุขุมวิท 63 คลองตันเหนือ วัฒนา กทม.) ในภาพรวม คือ ดีเอสไออายัดรถลัมโบกินี สีเขียว 2 คัน เป็นรถโจรกรรม 1 คัน และรถของ นายปกรณ์ ลัม 1 คัน ส่วนรถของ นายปกรณ์ ลัม จะมีความผิดหรือไม่ยังตอบไม่ได้ ต้องรอให้นายปกรณ์นำเอกสารมาชี้แจง
ก่อนหน้านี้ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สอบสวนและดำเนินคดีกับขบวนการหลีกเลี่ยงภาษีการนำเข้ารถยนต์หรูจากต่างประเทศ ว่า เรากำลังรวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลจากต่างประเทศที่ทางการไทยประสานงานกับแต่ละประเทศ เช่น ประเทศอิตาลี อังกฤษ เป็นต้น ซึ่งในส่วนของอังกฤษส่งข้อมูลแจ้งมาว่าเขามีรถยนต์หรูสูญหายไป 40 กว่าคัน ซึ่งฝ่ายไทยกำลังไปตรวจสอบให้ ถ้าพบเจอ ก็ต้องดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องไปตามกฎหมาย
"ผมได้มอบนโยบายแก่ ดีเอสไอ ไปแล้วว่าการสอบสวนเรื่องนี้ ต้องดำเนินการอย่างเท่าเทียมกัน ทุกอย่างต้องเป็นไปตามหลักฐานและข้อเท็จจริงที่มีอยู่"
เมื่อถามว่าจะดำเนินคดีกับข้าราชการระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยหรือไม่ นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของดีเอสไอ อย่างไรก็ตาม ตนทราบมาว่า สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้เข้ามาร่วมตรวจสอบอีกทางหนึ่งด้วย