สมาคมผู้นำเข้าและจำหน่ายรถหรู ยื่นคำร้องศาลปกครองกลาง สั่งเพิกถอนประกาศศุลกากรขึ้นภาษีนำเข้า เหตุไม่แจ้งล่วงหน้า ทำต้นทุน 4 รถหรูพุ่ง 70-80% ชี้ปอร์เช่เพิ่มเกือบ 3 ล้านต่อคัน หวั่นธุรกิจล้ม ยกปรับอัตราค่านำเข้ารถหรูรอบนี้ไทยสูงที่สุดในโลก
วันนี้ (12 ก.ย.) สมาคมผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ใหม่ ซึ่งมีสมาชิกกว่า 60 บริษัท นำโดย นายสมศักดิ์ ศรีรัตนประภาส นายกสมาคมฯ เข้ายื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลาง ขอให้เพิกถอนหนังสือลับมาก ด่วนที่สุด ที่ กค 0521(ส)/ร 2640 ลงวันที่ 28 สิงหาคม 2560 เรื่องการประเมินราคารถยนต์สี่ยี่ห้อ ที่กำหนดเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินราคารถยนต์สี่ยี่ห้อต่างไปจากคำสั่งกรมศุลกากร ที่ 317/2547 และในระหว่างฟ้องคดีขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินเพื่อมีคำสั่งระงับ ไม่ให้กรมศุลกากรใช้วิธีการในการประเมินราคารถตามหนังสือดังกล่าว
นายสมศักดิ์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทางอธิบดีกรมศุลกากรให้สัมภาษณ์ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์โดยจะเชิญผู้ประกอบการไปหารือ แต่กลับมีการออกประกาศดังกล่าวโดยไม่แจ้งให้ผู้ประกอบการทราบล่วงหน้า ซึ่งที่ผ่านมาผู้ประกอบการได้รับการลดหย่อนโดยมีการเปลี่ยนอัตราค่ารับราคารถยนต์ 4 รุ่น ประกอบด้วย 1. Porsche 2. Lamborghini 3. Ferrari และ 4. Maserati ซึ่งเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้น 70-85% เช่น การนำเข้ารถ Porsche รุ่น PANAMERA4 E-HYBRID 1 คัน ตามหลักเกณฑ์เดิมราคาศุลกากรจะอยู่ที่ 2,440,271.19 บาท ต้องชำระภาษีทั้งสิ้น 3,178,382 บาท แต่หากคำนวณตามราคาประเมินหลักเกณฑ์ใหม่ ราคาศุลกากรจะอยู่ที่ 4,852,039.95 บาท และจะต้องชำระภาษีทั้งสิ้น 5,647,991 บาท เท่ากับมีต้นทุนเพิ่มขึ้นเกือบ 3 ล้านบาท มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา ตัวเลขเช่นนี้จะทำให้ผู้ประกอบการถึงขั้นล้มละลายไม่สามารถประกอบธุรกิจต่อไปได้ และอาจต้องเป็นหนี้ด้วย
ด้านตัวแทนผู้ประกอบการกล่าวว่า เดิมการนำเข้ารถยนต์ผู้ประกอบการจะมีกำไรในหลักแสน แต่การเพิ่มอัตรารับราคาขึ้นมากว่า 3 ล้านบาทต่อคัน ทำให้ผู้ประกอบการขาดทุน เนื่องจากที่ผ่านมาได้มีการตกลงราคากับลูกค้าไว้ล่วงหน้าแล้ว เมื่อไปยื่นเรื่องกับกรมศุลกากร จึงเพิ่งทราบว่ามีการปรับราคาใหม่ ผู้ประกอบการจึงได้รับความเดือดร้อน และถือว่าไม่เป็นธรรม อีกทั้งจะเกิดการผูกขาดโดยดีลเลอร์ และกระทบต่อผู้บริโภคทำให้มีทางเลือกน้อยลง ทั้งนี้หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงก็จะทำให้อัตราค่านำเข้ารถหรูในประเทศไทยสูงที่สุดในโลก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อัตราการกำหนดประเมินราคารถยนต์สี่ยี่ห้อใหม่ของกรมศุลกากร กำหนดไว้ว่า 1. Ferrari ให้หักร้อยละ 32.01 จากราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม หากนำเข้าจากอังกฤษ 2. MASERATI ให้หักร้อยละ 53.52 จากราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่มหากนำเข้าจากอิตาลี 3. LAMBORGHINI ให้หักร้อยละ 27.67 จากราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่มหากนำเข้าจากอิตาลี และ 4. PORSCHE ให้หักร้อยละ 5.94 จากราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม หากนำเข้าจากอังกฤษ
ทั้งนี้ ในคำร้องดังกล่าวระบุด้วยว่า การปรับหลักเกณฑ์ของกรมศุลกากรครั้งนี้ ไม่ปรากฏว่ามีการอาศัยอำนาจตามความในกฎหมายระดับพระราชบัญญัติฉบับใดมารองรับเพื่อยกเลิกคำสั่งกรมศุลกากรที่ 317/2547 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2547 จึงเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นการกระทำตามอำเภอใจ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อีกทั้งยังไม่สอดคล้องกับความตกลงขององค์การค้าโลก เพราะกำหนดให้ใช้ราคาโดยอ้างอิงจากเว็บไซต์ http://www.automotor.it โดยกำหนดให้ประเมินราคาและหักราคาในอัตราที่แตกต่างกัน ไปตามประเทศที่เป็นต้นทางในการนำเข้ารถดังกล่าว ทั้งๆ ที่รถยี่ห้อดังกล่าวผลิตจากที่เดียวกัน แต่กลับกำหนดหลักเกณฑ์การคำนวณราคาต่างกัน