สัญญาณขึ้น ดบ.เฟด กดดันทองคำสร้างจุดต่ำสุดใหม่

การส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2017 ของเฟดที่มากกว่าหลายฝ่ายคาดการณ์ ผลักดันให้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐทะยานขึ้น กดดันราคาทองคำเดินหน้าสู่ขาลง ประเมินยังมีโอกาสทำกำไรระยะสั้นจากการรีบาวนด์ในบางช่วงของราคา ชี้แนวรับ 1,116 เหรียญ/ออนซ์ มีโอกาสเห็นแรงซื้อเข้าพยุง แต่หากหลุดแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,090 เหรียญ/ออนซ์

“วรุต รุ่งขำ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวถึงทิศทางราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมาว่า ราคายังมีการปรับฐานลงสู่ขาลงอย่างต่อเนื่อง และทำระดับต่ำสุดครั้งใหม่ หลังดัชนีดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตอบรับผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่มีการส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้ามากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ จากเดิมคาดว่าจะเกิดขึ้น 2 ครั้ง แต่ท่าทีของประธานเฟดออกมาส่งสัญญาณคุมเข้มนโยบายการเงิน ทำให้ถูกตีความน่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง 3 ครั้ง

ขณะที่การประชุมของธนาคารกลางอื่นๆ เช่น การประชุมของธนาคารกลางอังกฤษ หรือ BOE ยังมีการประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเอาไว้ตามเดิม เช่นเดียวกับธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งนโยบายของเฟดที่สวนทางต่อธนาคารกลางอื่นๆ ถือเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นให้ดัชนีดอลลาร์มีแนวดน้มที่แข็งค่าขึ้น

ส่วนปัจจัยที่ยังต้องติดตาม หลังจากราคาทองคำอ่อนตัวลงตอบรับต่อข่าวการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดไปค่อนข้างมาก ทำให้อาจต้องจับตาดูว่า แรงขายจะอ่อนตัวหรือไม่ ขณะที่ดัชนีดอลลาร์สหรัฐยังถือเป็นอีกปัจจัยที่ชี้วัดแนวโน้มเศรษฐกิจฝั่งสหรัฐฯ ที่ดีขึ้น และหากดอลลาร์เริ่มแรงขายทำกำไร หรือปรับตัวลงมาบ้าง อาจทำให้ราคาทองคำ เริ่มมีแรงฟื้นตัว หรือดีดตัวขึ้น

“แนะนำจับตาทิศทางตัวเลขเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุน เช่น ตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน , จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์ รวมถึงGDP ประจำไตรมาส3/2016 และยอดขายบ้านใหม่ "

นอกจากนี้ ยังมีการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งหลายฝ่ายคาดการณ์ว่า น่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับต่ำตามเดิม ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจกดดันให้เงินเยนอ่อนค่า และดอลลาร์แข็งค่าขึ้นไปอีกได้เช่นกัน

ดังนั้น กลยุทธ์ลงทุน จากทิศทางขาลงที่ค่อนข้างชัดเจน อาจใช้กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น และทำกำไรจากการแกว่งตัวของราคา โดยสามารถทำการขายทองคำออกมาได้หากการรีบาวนด์ของราคาไม่พ้น 1,144-1,152 เหรียญ/ออนซ์

ขณะที่การอ่อนตัว ต้องจับตาดูว่าราคาได้ปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับต่ำสุดเดิมหรือไม่ และรอจังหวะที่ราคามีการดีตัวขึ้น หรือรีบาวนด์นำทองคำออกขายเพื่อลดความเสี่ยง โดยประเมินแนวรับ 1,116 เหรียญ/ออนซ์ ซึ่งคาดว่าเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาจะสามารถรีบาวนด์ขึ้นได้ในระยะสั้น ถือเป็นจุดที่สามารถเข้าเสี่ยงซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นได้ แต่หากหลุดแนวรับดังกล่าวประเมินว่า แนวโน้มเป็นลบมากขึ้น โดยมีแนวรับที่ 1,090 เหรียญ/ออนซ์