xs
xsm
sm
md
lg

ปัจจัยบวก ศก.US กดดันราคาทองคำอยู่ในช่วงขาลง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ทองคำ” ได้รับแรงกดดันจากสัญญาณเศรษฐกิจฝั่งสหรัฐฯ มากขึ้น หลังดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง สร้างแรงเทขายต่อทองคำ ประเมินหากเฟดยังเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้่ยจะกดดันราคาทองคำปรับตัวลดลงแน่ ภาพรวมแนะนำลงทุนระยะสั้น หากหลุด 1,245 เหรียญ/ออนซ์ อาจต้องทยอยแบ่งขายตัดขาดทุนเพื่อลดความเสี่ยง



“วรุต รุ่งขำ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวถึงทิศทางราคาทองคำว่า ภาพรวมราคาทองคำที่ผ่านมา ทองคำไม่ได้มีการผันผวนมากนัก และการเคลื่อนไหวยังคงในกรอบ คือ เมื่อราคามีการขยับขึ้นจะมีแรงขายทำกำไรออกมาค่อนข้างชัดเจน ทั้งนี้ ราคาพยายามทดสอบเหนือราคาด้านบน โดยทิศทางสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่เป็นตัวกระตุ้นในส่วนของแรงขายทำกำไรออกมา หลังได้รับแรงหนุนจาก นางฮิลลารี คลินตัน และนายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งการที่ นางฮิลลารี ชนะนายโดนัลด์ ทรัมป์ 3 ครั้งติดต่อกัน ทำให้เกิดกระแสว่านางฮิลลารี น่าจะได้เป็นประธานาธิบดีคนต่อไป โดยปัจจัยดังกล่าวกระตุ้นในตัวสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และส่งผลให้ทิศทางในตลาดหุ้น และการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงแข็งแกร่งมากขึ้น กลับมาเป็นปัจจัยกดดันให้แก่ราคาทองคำ อีกทั้งผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB ยังคงมีการตึงอัตรามาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจ และอัตราดอกเบี้ยต่ำไว้ต่อไป ซึ่งปัจจัยดังกล่าวกดดันให้ยูโรร่วงลง และกดดันให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น


สำหรับปัจจัยที่ยังคงต้องจำตาดู ยังคงเป็นทิศทางสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ว่า ยังคงมีทิศทางแข็งค่าขึ้นหรือไม่ รวมถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด ว่า ยังคงมีแนวโน้มที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในเดือนธันวาคมนี้อยู่หรือไม่ เพราะนักลงทุนยังคงใช้ปัจจัยดังกล่าวเป็นตัวกำหนดทิศทางราคาทองคำ ขณะที่สัปดาห์นี้จะมีการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานเฟด สาขานิวยอร์ก และสาขาเซ็นหลุยส์ ซึ่งอาจจะต้องจับตาดูว่า ประธานเฟดทั้ง 2 ท่าน ยังคงสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้อย่างแข็งแกร่งหรือไม่ หากยังมีลักษณะการส่งสัญญาณดังกล่าวน่าจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่กลับมากดดันทิศทางราคาทองคำ ขณะเดียวกัน จะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานประจำสัปดาห์ในฝั่งสหรัฐฯ และจะเป็นการประมาณการครั้งแรกของ GDP ประจำไตรมาส 3 ของปี 2559 โดยหากตลาดแรงงาน และตัวเลข GDP ยังคงแข็งแกร่ง ดอลลาร์ยังขยับขึ้นได้ต่อ จะเป็นป้จจัยตัวหนึ่งที่เพิ่มแรงขายแก่ทิศทางราคาทองคำ

ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุน ยังเน้นการลงทุนระยะสั้น จากการเคลื่อนไหวในลักษณะการแกว่งตัวของราคาทองคำ โดยหากราคามีการดีดตัวขึ้นอาจจะจับตาดูแนวต้านบริเวณ 1,283 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์ ว่า การดีดตัวขึ้น หรือการรีบราวนด์จะผ่านระดับดังกล่าวได้หรือไม่ หากการดีดตัวขึ้นไม่ผ่าน หรือยังไม่สามารถกลับไปยืนเหนือระดับดังกล่าวได้ อาจมีการทยอยแบ่งทองคำออกขายแล้วรอการอ่อนตัวลงมาแล้วค่อยเข้าซื้อในส่วนของทองคำอีกครั้ง โดยแนวรับประเมินไว้ที่ระดับ 1,245 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์ ทั้งนี้ ประเมินราคาทองคำน่าจะแกว่งตัวในระดับ 1,245-1,283 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ แต่หากราคาทะลุกรอบด้านใดด้านหนึ่งอาจจะเห็นทิศทางของราคาทองคำที่ชัดเจนขึ้น โดยประเมินในส่วนของแนวต้านถ้ดไปบริเวณ 1,300 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์ และแนวรับถัดไปบริเวณ 1,213 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์

ทั้งนี้ นักลงทุนที่มีการถือครองทองคำไว้หากราคาหลุด 1,245 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์ อาจจะทำแนวโน้ม หรือมุมมองระยะสั้นกลับมาเป็นลบอีกครั้ง ดังนั้น อาจจะต้องทยอยแบ่งทองคำ หรือตัดขาดทุนบางส่วนเพื่อควบคุมความเสี่ยง นอกจากนี้ ในส่วนของค่าเงินบาทที่มีการแกว่งตัวอาจยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่นักลงทุนต้องติดตาม

กำลังโหลดความคิดเห็น