ดอลลาร์สหรัฐ และผลตอบแทนพันธบัตรอเมริกา ยังกดดันราคาทองคำอ่อนตัวตามแรงเทขายของกองทุน และนักลงทุน หลังประธานเฟดส่งสัญญาณจะปรับอัตราดอกเบี้ยตามกำหนดระยะเวลาเดิม แนะนำชะลอการลงทุน และแบ่งทองคำออกขายเพื่อลดความเสี่ยง
นายวรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวภาพรวมภาวะราคาทองคำที่ผ่านมาว่า ราคาทองคำมีการปรับฐานลงมาค่อนข้างชัด ส่วนหนึ่งถูกกดดันจากการที่ทิศทางดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยดัชนีดอลลาร์สหรัฐทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 13 ปีครึ่ง ขณะที่การแถลงการณ์ของ นางเจเน็ต เยเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่มีการแถลงนโยบายการเงินต่อสภาครองเกรส ยังมีการส่งสัญญานยืนยันจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามแผนการเดิมที่วางไว้
โดยปัจจัยดังกล่าวเป็นการเปิดทางให้ทิศทางดัชนีดอลลาร์สหรัฐ ยังมีโอกาสแข็งค่าได้ต่อ และกระแสดังกล่าวมีการส่งผลให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า ทองคำจะมีการอ่อนตัว หรือปรับฐานลง จึงมีการขาย และทำกำไรมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่กองทุน SPDR ซึ่งเป็นกองทุนทองคำที่ใหญ่ที่สุด ยังคงลดการถือครองทองคำค่อนข้างมาก
สำหรับปัจจัยที่จะต้องจับตา คือ ผลตอบแทนธนบัตรในฝั่งสหรัฐฯ ระยะยาวว่าจะมีการทะยานขึ้นต่อหรือไม่ รวมถึงดัชนีดอลลาร์สหรัฐ จะมีแรงเทขายทำกำไรสลับออกมามากน้อยเพียงใด เพราะจะเห็นได้ค่อนข้างชัดในเมื่อดัชนีดอลลาร์สหรัฐ เริ่มชะลอการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ราคาทองคำจะพยายามตั้งฐาน และเมื่อดัชนีดอลลาร์สหรัฐมีการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทองคำยังคงทำระดับต่ำสุด หรือหาจุดต่ำสุดครั้งใหม่
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงสามารถจับตาดูตัวเลขเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ ประกอบกับทิศทางราคาผลการตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และดอลลาร์สหรัฐ ในการประกอบการตัดสินใจลงทุน เช่น การเปิดเผยยอดจำนวนการสั่งซื้อสินค้าคงทน และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานประจำสัปดาห์ เป็นต้น
ส่วนกลยุทธ์การลงทุน ทิศทางราคาทองคำยังอยู่ในทิศทางขาลงระยะสั้น รวมถึงการแกว่งตัวของค่าเงินบาท ระหว่างสัปดาห์ยังคงแกว่งตัวในระดับค่อนข้างสูง ทั้่งนี้ แนวโน้มของค่าเงินบาทที่ยังคงมีการอ่อนค่าค่อนข้างมาก ถือเป็นปัจจัยตัวหนึ่งที่ยังชะลอการปรับตัวของราคาทองคำภายในประเทศให้น้อยกว่าราคาทองคำในต่างประเทศ ซึ่งนักลงทุนสามารถจับตาดูทิศทางดังกล่าวในการวางแผนกลยุทธ์การลงทุน โดยหากราคามีการรีบาวนด์ หรือดีดตัวขึ้น และยังไม่สามารถทำระดับสูงสุดใหม่ผ่านบริเวณ 1,233 เหรียญ/ออนซ์ ยังคงแนะนำนักลงทุนที่มีการถือครองทองคำไว้ ทยอยแบ่งทองคำออกขายเพื่อลดความเสี่ยง แต่หากราคามีการอ่อนตัวลงหรือปรับฐานลง นักลงทุนที่มีสถานะขาย หรือว่า Shortในโกลด์ฟิวเจอร์ไว้ อาจจะทยอยปิดสถานะการลงทุนบางส่วนเพื่อลดความเสี่ยง หรือทำกำไรเป็นชุดๆ โดยให้โซนแนวรับบริเวณ 1,194 เหรียญ/ออนซ์ และแนวรับถัดไปบริเวณ 1,171 เหรียญ/ออนซ์