xs
xsm
sm
md
lg

ความผันผวนจากการเลือกตั้งในสหรัฐฯ สนับสนุนราคาทองคำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผลักดันราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ประเมินหากอ่อนตัวลงมาไม่หลุด 1,266 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์ ยังประเมินว่าราคาอาจมีการดีดตัวขึ้น แต่หากหลุด 1,266 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์ จะทำให้แนวโน้ม หรือโมเมนตัมกลับมาเป็นลบมากขึ้น

“วรุต รุ่งขำ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวถึงทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมาว่า การเคลื่อนไหวทองคำได้รับแรงหนุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากสถานการณ์การเลือกตั้งฝั่งสหรัฐฯ ดูท่าทีจะยังมีความเข้มข้น และยังคงสร้างความวิตกกังวลในสินทรัพย์เสี่ยง

“ราคาทองคำได้รับแรงหนุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เมื่อกระแสการคาดการณ์ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิปดี มีโอกาสจะเป็นประธานาธิบดี หลังจากฮิลลารี คลินตัน ถูกเอฟบีไอตรวจสอบเซิฟเวอร์อีเมลครั้งดำรงตำแหน่งในส่วนของรัฐมนตรีต่างประเทศ โดยสถานการณ์ดังกล่าวทำให้คะแนนเสียงของฮิลลารี ดร็อปลงอย่างชัดเจน และคะแนนเสียงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งการมีโอกาสชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีของ ทรัมป์ ส่งผลเสียต่อสินทรัพย์เสี่ยง อย่างไรก็ตาม การขยับขึ้นของราคาทองคำยังอยู่ในทิศทางค่อนข้างจำกัด”

นอกจากนี้ การะประชุมของธนาคารกลางต่างๆ เช่น ธนาคารกลางญี่ปุ่น ธนาคารกลางอังกฤษ และธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ผ่านมา มีการตึงนโยบายการเงินไว้ตามเดิม ซึ่งการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายการเงิน หรือการชะลอการกระตุ้นหรือออกมาตราการเศรษฐกิจเพิ่มเติมยังเป็นปัจจัยตัวหนึ่งที่กระตุ้นให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล หรืออัตราดอกเบี้ยในตลาดมีการเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลเชิงลบต่อราคาทองคำ ในฐานะที่ไม่ให้ผลตอบแทนในฐานะดอกเบี้ย

โดยปัจจัยที่ยังคงต้องจับตา อาจจะต้องจับตาดูในส่วนของการเลือกตั้งของสหรัฐฯ เป็นประเด็นหลักว่าในส่วนการเลือกตั้งที่เกิดขึ้น ใครจะได้ก้าวขึ้นมาเป็นส่่วนหนึ่งของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งจะมีผลต่อสินทรัพย์เสี่ยง ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ และทองคำอย่างชัดเจน



ขณะเดียวกัน นักลงทุนต้องจับตาดูปัจจัยอื่นๆ เช่น ตัวเลขเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ เพื่อใช้ในการประเมินทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ในช่วงเดือนธันวาคม และตัวเลขเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ ที่จะมีการเปิดเผย เช่น จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานประจำสัปดาห์ รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ อย่างเช่นตัวเลขเศรษฐกิจในฝั่งจีน ซึ่งต้องจับตาดูการเปิดเผยดุลการค้า เพราะหากดุลการค้าของทางฝั่งจีนยังคงขาดทุนในระดับสูง ยังคงแสดงให้เห็นถึงทิศทางเม็ดเงินที่ยังคงไหลออกจากจีน และประเด็นดังกล่าวอาจจะกลับมาเป็นปัจจัยตัวหนึ่งที่สร้างแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุน คาดว่าผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝั่งสหรัฐฯ อาจจะสร้างความผันผวนเข้าสู่ตลาดทองคำอีกครั้ง ทั้งนี้ หากนักลงทุนรับความเสี่ยงได้น้อยอาจจะต้องชะลอการลงทุน หรือรอความชัดเจนจากผลการเลือกตั้งดังกล่าวให้มีความชัดเจนว่าหากราคาทองคำมีการแกว่งตัว หรือสวิงตัวคล้ายในช่วงผลบวกของ Brexit หรือการที่อังกฤษจะมีการถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป จะทำให้เกิดการแกว่งตัว หรือความผันผวนค่อนข้างมาก

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงได้อาจเข้ามาลงทุนระยะสั้นโดยใช้การลงทุนเพียง 10-15% ของพอร์ตการลงทุนเท่านั้น แล้วปิดสถานะการทำกำไรออกไปก่อน

ทั้่งนี้ ระยะสั้นประเมินโซนแนวรับบริเวณ 1,266-1,241 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งหากอ่อนตัวลงมาไม่หลุด 1,266 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์ ยังประเมินว่าราคาอาจมีการดีดตัวขึ้นทดสอบกรอบด้านบริเวณ 1,322-1,353 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์ และจะทำให้แนวโน้ม หรือโมเมนตัมเป็นบวกมากขึ้น

แต่อย่างไรก็ตาม หากราคาสามารถยืนอยู่เหนือระดับ 1,353 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์ ยังมีโอกาสทดสอบระดับสูงสุดของปีบริเวณ 1,375 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์ ทั้งนี้ หากราคามีการทิ้งตัวแรงจนหลุดราคา 1,266 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์ จะทำให้แนวโน้ม หรือโมเมนตัมกลับมาเป็นลบมากขึ้น นักลงทุนที่มีสถานะซื้ออาจจะต้องตัดขาดทุนบางส่วน และรอเข้าซื้อในส่วนของแนวรับถัดไปบริเวณ 1,241 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์
กำลังโหลดความคิดเห็น