บลจ.วรรณชี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรผันผวนตามความไม่แน่นอนปัจจัยต่างประเทศ สาเหตุหลักมาจากการที่สหรัฐฯ จะจัดการเลือกตั้งช่วงนี้ ด้านตราสารหนี้ไทยสัปดาห์นี้เปิดประมูลพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 12,000 บาท กระทบอัตราผลตอบแทนระยะกลางถึงยาว แนะจัดสรรเงินบางส่วนลดความผันผวน โดยเปิดเสนอขายกองทุนเปิด วรรณ ไฟแนนเชียล อินสตรูเมนท์ 6M/2 (1FIN6M/2) อายุ 6 เดือน ระหว่างวันที่ 4-11 พฤศจิกายนนี้
นายมณฑล จุนชยะ ประธานเจ้าหน้าที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด (บลจ.วรรณ) เปิดเผยว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยในสัปดาห์นี้มีโอกาสเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เนื่องจากนักลงทุนยังคงรอดูผลการประชุมธนาคารกลางหลักในหลายประเทศ ทั้งธนาคารกลางสหรัฐฯ ธนาคารกลางญี่ปุ่น และธนาคารกลางอังกฤษ โดยตลาดคาดว่าธนาคารกลางทั้ง 3 แห่งจะคงนโยบายการเงินและอัตราดอกเบี้ยนโยบายเช่นเดิม โดยตลาดยังคงให้น้ำหนักการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในเดือน ธ.ค. 59 ตามเดิม
“บลจ.วรรณมองว่า นโยบายการเงินของธนาคารกลางหลักๆ ยังเหมือนเดิม แต่ประเด็นที่ต้องตามอย่างใกล้ชิด คือ ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่า นางฮิลลารี คลินตัน มีโอกาสได้รับคัดเลือกเป็นประธานาธิบดีคนถัดไป แต่ขณะนี้ได้มีประเด็นทางการเมืองที่ลดความน่าเชื่อถือของนางฮิลลารี คลินตันลง ซึ่งอาจจะส่งผลให้ตลาดตราสารหนี้มีความผันผวนในระยะสั้น” นายมณฑลกล่าว
ส่วนของตลาดตราสารหนี้ในประเทศ ในสัปดาห์นี้มีการประมูลพันธบัตรรัฐบาลอายุ 20 ปี มูลค่า 12,000 ล้านบาท ซึ่งจะกดดันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยระยะกลางถึงยาวปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงต้องติดตามกระแสเงินทุนของต่างชาติหลังค่าเงินบาทเริ่มอ่อนค่าลง (จากค่าเงินดอลลาร์ฯ ที่แข็งค่าขึ้น)
นายมณฑลกล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงความผันผวนจากปัจจัยต่างประเทศ ทั้งด้านปัจจัยการเมืองและนโยบายของสหรัฐฯ ที่นอกเหนือจากการส่งสัญญาณของธนาคารกลางแต่ละแห่ง อาจส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรมีความผันผวนตามสถานการณ์ต่างๆ ดังนั้น บริษัทแนะนำให้กระจายการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ที่มีอายุการลงทุนที่แน่นอนเพื่อลดความผันผวนของราคาและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรในตลาดตราสารหนี้ไทย