ทองคำแกว่งตัวแคบ ขาดความชัดเจน รอดูท่าทีบรรดาธนาคารกลาง

ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบ เมื่อปรับขึ้นจะเจอแรงเทขาย เพื่อลงมาจะถูกแรงซื้อเข้าพยุง เหตุนักลงทุนรอความชัดเจนนโยบายธนาคารกลางประเทศต่างๆ จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่ หลังหยุดนิ่งเปิดทางเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามภาวะเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้น ประเมินหากหลุด 1,245 เหรียญ/ออนซ์ อาจปรับตัวลงต่อ จนอาจต้องตัดขาดทุนเพื่อถอยไปรับในจุดซื้อใหม่บริเวณ 1,225 เหรียญ/ออนซ์

“วรุต รุ่งขำ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวถึงทิศทางราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมาว่า ราคายังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยเมื่อมีการขยับขึ้นจะพบกับแรงเทขายทำกำไรกดดันลงมา แต่พอจะปรับตัวลงไปมากพบว่ายังมีแรงซื้อเข้ามาช่วยพยุงราคาไว้

“ราคาทองคำยังถูกกดดันจากดัชนีดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับตะกร้าเงิน ซึ่งยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง โดยผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 5 เดือน ถือเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่ง และรักษาระดับเอาไว้ได้ และยังคงกดดันทิศทางทองคำ อีกทั้งจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม ขณะที่ธนาคารกลางประเทศต่างๆ จะยังคงตรึงนโยบายการเงินเอาไว้ตามเดิม ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ง่ายขึ้น”

โดยปัจจัยที่ต้องจับตา คือ แนวโน้มเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ และการประชุมของธนาคารกลางต่างๆ ว่ายังคงมีแนวโน้ม หรือสถานการณ์เป็นตามเหมือนดังที่ตลาดคาดการณ์ไว้หรือไม่ เช่น การแถลงนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น ซึ่งต้องจับตาดูว่าจะมีการแถลงเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่ เช่นเดียวกับเฟดที่จะมีการประกาศมติการประชุม และการประกาศอัตราดอกเบี้ยนโยบาย รวมทั้งการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร อัตราการว่างงาน และรายได้ต่อชั่วโมงในฝั่งสหรัฐฯ ซึ่งจะช่วยให้เห็นทิศทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ได้ชัดเจนขึ้น นอกจากนี้ นักลงทุนอาจอาศัยการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท ซึ่งที่ผ่านมา มีการแกว่งตัวเป็นปัจจัยในการกำหนดกลยุทธ์ลงทุน

ดังนั้น กลยุทธ์ลงทุนในช่วงนี้อาจต้องจับตาการเคลื่อนไหวของราคา ต้องดูว่าจะมีการทะลุกรอบด้านใดด้านหนึ่งหรือไม่ เพราะถ้ามีการทะลุอาจเห็นการเคลื่อนไหวของราคาทองคำที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งจะทำให้นักลงทุนสามารถปรับรูปแบบ หรือกลยุทธ์ตามลักษณะการเคลื่อนไหวของราคาทองคำได้ โดยมีกรอบการเคลื่อนไหวแนวต้าน 1,276-1,283 เหรียญ/ออนซ์ ขณะที่แนวรับประเมินที่ 1,253-1,245 เหรียญ/ออนซ์

“คาดว่าหากราคาไม่หลุด 1,245 เหรียญ/ออนซ์ ก็มีโอกาสที่ราคาจะรีบาวนด์ขึ้นมาทดสอบแนวต้านด้านบน 1,283 เหรียญ/ออนซ์อีกครั้ง แต่หากหลุดแนวรับดังกล่าวอาจเกิดการปรับฐานให้ราคาไปทดสอบแนวรับถัดไปบริเวณ 1,225 เหรียญ/ออนซ์ ซึ่งนักลงทุนที่มีสถานะซื้ออยู่อาจต้องตัดขาดทุนบางส่วน เพื่อถอยจุดเข้าซื้อไปยังโซนแนวรับถัดไป แต่หากราคามีการดีดตัวขึ้นพ้น 1,283 เหรียญ/ออนซ์ สามารถถือต่อเพื่อไปรอขายทำกำไรบริเวณ 1,300 เหรียญ/ออนซ์ได้เช่นกัน”