บล.ทิสโก้ เผย 6 เดือนแรกหุ้นไทยสุดเจ๋งให้ผลตอบแทน 12% เป็นอันดับ 1 ของเอเชีย คาดช่วงไตรมาส 2 ถึงต้นไตรมาส 4 เม็ดเงินนอกทะลักเข้าไทยไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้าน ดันดัชนีฯ ทำนิวไฮ ระบุสิ่งที่ต่างชาติจับตา ได้แก่ การลงประชามติ รธน. หากผ่านไปได้ เชื่อตลาดจะตอบรับดีขึ้น
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี 2559 ได้ประเมินกระแสเงินทุนต่างชาติจะเข้าตลาดหุ้นไทยประมาณ 50,000 ล้านบาท หลังจากครึ่งแรกของปีเข้ามาแล้ว 36,000 ล้านบาท เนื่องจากต่างชาติมองว่า ตลาดหุ้นไทยยังมีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง รวมถึงในปี 2558 ผลตอบแทนตลาดหุ้นไทยติดลบถึง 14% ทำให้กระแสเงินทุนต่างชาติโยกย้ายจากที่เคยมีผลตอบแทนสูงในปีที่แล้วมาอยู่ในไทย ดังนั้น คาดว่าในปีนี้ดัชนีน่าจะปรับขึ้นไปอยู่ในระดับ 1,550-1,580 จุด
ขณะนี้ แนะให้จับตามาตรการผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางประเทศต่างๆ เช่น ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ธนาคารกลางอังกฤษ (อีซีบี) และสหภาพยุโรป (อียู) เป็นต้น รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา จะทำให้เม็ดเงินที่ออกมาล้นระบบ ซึ่งสุดท้ายจะโยกย้ายเข้าตลาดหเอเชีย และไทย ประกอบกับตอนนี้พันธบัตรรัฐบาลหลายๆ ประเทศมีผลตอบแทนต่ำ และติดลบ เช่น พันธบัตรสหรัฐฯ ผลตอบแทนอยู่ที่ 1.3% ส่วนของเยอรมนี ญี่ปุ่น และอีกหลายประเทศ มีผลตอบแทนติดลบ
อย่างไรก็ตาม ช่วงครึ่งปีแรกตลาดหุ้นไทยที่ให้ผลตอบแทน 12% หรือเพิ่มขึ้นจากต้นปี 181.58 จุด โดยวันที่ 4 ม.ค.ปิดที่ 1,263.41 และมาปิดตลาดในวันที่ 30 มิ.ย.ที่ 1,444.99 จุด ถือว่ามีผลตอบแทนที่ดีที่สุดอันดับ 1 ของตลาดหุ้นเอเชีย และหากการลงประชามติรัฐธรรมนูญของไทยในวันที่ 7 ส.ค.นี้ผ่านไปได้ เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยยิ่งได้รับการตอบรับที่จากต่างประเทศมากขึ้น
ทั้งนี้ สิ่งที่นักลงทุนต่างประเทศจับตามอง นอกจากจะเป็นเรื่องของการลงประชามติแล้ว ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดน่าสนใจ คือ เรื่องของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล การช่วยเหลือเอสเอ็มอี ช่วยเหลือเกษตรกร การกระตุ้นภาคการบริโภค การเร่งรัดในการเบิกจ่ายงบประมาณ และประมูลโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล 400,000 ล้านบาท เป็นต้น โดยคาดว่าหุ้นไทยจะปรับตัวสูงสุดในช่วงปลายไตรมาส 3 และต้นไตรมาส 4 ของปี