xs
xsm
sm
md
lg

“ใบเหลือง” ซีอีโอโบรกเกอร์ ... ชุมชนคนหุ้น By สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.หลักทรัพย์ แอพเพิลเวลธ์
คำสั่งลงโทษ นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ จำกัด (มหาชน) โบรกเกอร์เบอร์ 15 ถูกสวนกลับทันควัน โดยการประกาศไม่ยอมรับคำตัดสินของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และจะยื่นอุทธรณ์คำสั่งร้องขอความเป็นธรรมในทุกศาล

ก.ล.ต.ได้ออกประกาศพักการให้ความเห็นชอบ นายประสิทธิ์ เป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน 2 ปี ในความผิดฐานละเลยการตรวจสอบดูแลระบบงานในการทำความรู้จักลูกค้าและตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า และการกำกับดูแลการทำธุรกรรมของลูกค้า

ช่วงเวลา 2 ปีจากนี้ นายประสิทธิ์ จะไม่สามารถทำงานที่เกี่ยวข้องต่อตลาดหลักทรัพย์ได้ ต้องเปลี่ยนอาชีพใหม่ชั่วคราว และทำให้เกิดคำถามว่า บทลงโทษนั้นหนักเกินไปหรือไม่


ก.ล.ต.ได้ตรวจสอบระบบการทำงานของบริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ และพบว่า นายประสิทธิ์ มีส่วนในการกระทำผิดของบริษัท และละเลยการตรวจสอบดูแล โดยเป็นผู้อนุมัติการเปิดบัญชีและเพิ่มวงเงินให้ลูกค้าหลายราย ทั้งที่ลูกค้ามีเอกสารทางการเงินไม่ครบถ้วน ข้อมูลไม่สอดคล้องต่อมูลค่าธุรกรรมของลูกค้าอย่างมีนัยสำคัญ เข้าข่ายความผิดมาตรา 11 และมาตรา 28 พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535

เบื้องหลังคำสั่งลงโทษเกิดขึ้นภายหลังจากที่ ก.ล.ต.ตรวจสอบพบว่า มีการโอนหุ้นบริษัทพลังงานแห่งหนึ่งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยโอนจากบัญชีลูกค้าบริษัทบนเกาะที่มีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะแหล่งหลบเลี่ยงภาษีในต่างประเทศ และโอนให้ลูกค้าบริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ หลายราย

ส่วนลูกค้าที่รับโอนหุ้น นายประสิทธิ์ เปิดบัญชีให้เพียง 8 บาท ขณะที่มูลค่าหุ้นที่รับโอนสูงกว่ามากมาย และที่สำคัญคือ ลูกค้าที่โอนหุ้นมาจากเกาะในต่างประเทศ ไม่มีคำตอบว่าเป็นใครมาจากไหน การโอนหุ้นข้ามบัญชีเป็นธุรกรรมที่อยู่ในข่ายการสร้างราคาหุ้น โดยเฉพาะการโอนจากลูกค้าต่างประเทศ และหุ้นพลังงานหลายตัวก็มีพฤติกรรมลับๆ ล่อๆ ในการสร้างราคาหุ้นเสียด้วย

นายประสิทธิ์ ได้ออกจดหมายเปิดผนึกชี้แจงข้อกล่าวหา ก.ล.ต. โดยเฉพาะประเด็นการโอนหุ้นข้ามชื่อ ซึ่งโอนจากลูกค้ารายหนึ่งสู่ลูกค้าหลายราย แต่ไม่เกิน 5 ราย โดยอ้างว่าการโอนหุ้นข้ามชื่อทุกโบรกเกอร์ก็ทำกัน ส่วนการเปิดบัญชีวงเงิน 8 บาทนั้น ได้เปิดกับลูกค้าทุกคนที่เอกสารไม่ครบ และ ก.ล.ต.ก็ไม่เคยติงในประเด็นนี้

นอกจากชี้แจงตอบโต้ความผิดอื่นที่ ก.ล.ต.ระบุแล้ว ในจดหมายเปิดผนีก นายประสิทธิ์ ยังใช้ “คำโต” ประกาศขอเป็นตัวแทนซีอีโอทั้งหมดของธุรกิจหลักทรัพย์ ในการเรียกร้องขอความเป็นธรรมจาก ก.ล.ต.โดยระบุว่า หากการบริหารงานของซีอีโอ ได้กระทำบนพื้นฐานความถูกต้องชอบธรรม และเป็นไปตามกฎเกณฑ์แล้ว

การลงโทษขอให้เป็นไปตามหลักการที่มีเหตุผลอธิบายได้ โดยปราศจากข้อสงสัยไม่รู้ว่า ซีอีโอโบรกเกอร์ทุกคนจะยอมรับคำโตขอเป็นตัวแทนเรียกร้องความเป็นธรรมหรือไม่ แต่นายประสิทธิ์ ประกาศตั้งตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นายประสิทธิ์ อยู่ในธุรกิจหลักทรัพย์มากว่า 20 ปี เริ่มตั้งแต่การดูแลลูกค้าธุรกรรมต่างๆ ให้นักลงทุนรายใหญ่ ก่อนก้าวเข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด ประจำอยู่ที่สาขาของบริษัทโบรกเกอร์ในหาดใหญ่ และเป็นมาร์เกตติ้งที่มีชื่อกระฉ่อนที่สุดในหาดใหญ่ เพราะมีลูกค้ารายใหญ่อยู่ในมือ จึงเป็นที่ฉกชิงตัวจากโบรกเกอร์หลายแห่ง หลังปี 2540 นายประสิทธิ์ ได้เดินเข้ากรุง ตำแหน่งขยับอย่างต่อเนื่อง

จนเลื่อนขึ้นมานั่งเก้าอี้ประธานกรรมการบริหารในวัยหนุ่มมาก มีฐานะมั่งคั่ง สามารถตั้งโรงเรียนสอนภาษาเป็นธุรกิจส่วนตัวได้ และมีความสัมพันธ์กับเครือข่ายการเมือง กลุ่มตระกูลวงศ์สวัสดิ์ จึงถูกตั้งให้เป็นประธานกรรมการบริหาร บริษัท เฟอร์รั่ม จำกัด (มหาชน) ซึ่งเปลี่ยนชื่อมาจากบริษัท เอ็ม ลิงค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด


นายประสิทธิ์ มีประสบการณ์โชกโชนในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหุ้น ถูกดึงตัวทำงานกับบริษัทโบรกเกอร์หลายแห่ง และลือกันว่าลูกค้ารายใหญ่ที่นายประสิทธิ์ ดูแลมีวงเงินลงทุน หรือพอร์ตรวมกันระดับหมื่นล้านบาท

สำหรับบริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลท์ จำกัด (มหาชน) นั้น เปิดตัวเมื่อต้นปี2557 โดยเป็นการร่วมทุนระหว่างแกนนำพรรคเพื่อไทยบางคน ร้านค้าทองชื่อดัง ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ซื้อขายทองล่วงหน้า หรือซื้อขายทองคำกระดาษอยู่แล้ว และนายประสิทธิ์ นายวิจิตร สุพินิจ อดีตผู้ว่าการแบงก์ชาติ ซึ่งถูกเปรียบเป็นแมวเก้าชีวิตที่วนเวียนหากินในตลาดหุ้นมานับสิบๆ ปี ถูกตั้งเข้ามาเป็นประธานกรรมการ ซึ่งบางโอกาสมีการควงนายทหารเข้ามาสร้างความน่าเกรงขามในการเจรจาธุรกิจอีกด้วย

วันแถลงข่าวเปิดตัว นายประสิทธิ์ ประกาศว่า จะนำบริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประมาณปลายปี 2558 แต่จนบัดนี้แผนการเข้านำหุ้นเข้าซื้อขายยังไปไม่ถึงไหน และเมื่อมีข่าวด้านลบ คงไม่ง่ายแล้วที่จะเข้าตลาดปีไหน

ไม่มีเหตุจำเป็นใดที่ ก.ล.ต.จะกลั่นแกล้ง นายประสิทธิ์ แต่บทลงโทษหนักที่ได้รับ นายประสิทธิ์ ย่อมมีสิทธิจะรู้สึกว่าไม่เป็นธรรม มีสิทธิที่จะร้องขอความเป็นธรรม และมีสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่จะต่อสู้เพื่อรักษาชื่อเสียง และศักดิ์ศรี

แต่คำอุทธรณ์จะฟังขึ้นหรือไม่ การต่อสู้ในทางศาลจะชนะหรือไม่ ต้องติดตามดูชมกันต่อไป อย่างไรก็ตาม กระบวนการลงโทษ และตรวจสอบของ ก.ล.ต.ยังไม่สิ้นสุด เพราะยังต้องพิจารณาเปรียบเทียบความผิดของ นายประสิทธิ์

ส่วนบริษัทพลังงานที่มีการโอนหุ้นข้ามบัญชี เข้าข่าย “นอมินี” นั้น ต้องถูกลูกหลงไปด้วย เพราะ ก.ล.ต.คงเพ่งเล็งพฤติกรรมการสร้างราคาเป็นกรณีพิเศษ น่าเสียดายที่ไม่รู้ว่าหุ้นหลังงานตัวไหนหนอ เป็นต้นเหตุให้ นายประสิทธิ์ ถูก ก.ล.ต.แจก “ใบเหลือง” จนต้องหลุดออกนอกวงโคจรตลาดหุ้นไปอีกพักใหญ่

ส่วนโทษของนายประสิทธิ์ หนักไปหรือไม่ ไม่มีใครตอบได้ดีกว่า บรรดาซีอีโอบริษัทหลักทรัพย์ เพราะอยู่ในอาชีพเดียวกันย่อมรู้พฤติกรรม นายประสิทธิ์ ดีที่สุด

ชุมชนคนหุ้น
สุนันท์ ศรีจันทรา
กำลังโหลดความคิดเห็น