xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์เกตติ้ง” ตัวแสบ...ชุมชนคนหุ้น โดย สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ภาพจากอินเทอร์เน็ต
ข่าวการลงโทษเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด หรือมาร์เกตติ้งบริษัทโบรกเกอร์ เกิดขึ้นมาเป็นระยะ แต่ล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ประกาศลงโทษหนักมาร์เกตติ้งที่ร่วมขบวนการปั่นหุ้น โดยสั่งปรับเป็นเงินกว่า 72 ล้านบาท

มาร์เกตติ้งที่เจอโทษหนักรายนี้คือ นายแฉล้ม เสมสฤษดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

ก.ล.ต.สั่งปรับ นายแฉล้ม พร้อมพวกรวม 9 คน รวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 447 ล้านบาท ฐานความผิดในการสร้างราคา หรือปั่นหุ้นบริษัท สหโมเสคอุตสาหกรรมจำกัด (มหาชน) ชื่อย่อหุ้น “ยูเอ็มไอ” โดยผู้บริหารบริษัท สหโมเสคฯ หลายคนถูก ก.ล.ต.ประกาศกล่าวโทษในฐานความผิดปั่นหุ้นไปแล้วก็ก่อนหน้า

ห้นยูเอ็มไอ ถูกปั่นระหว่างวันที่ 8 มกราคม 2556 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556 โดยระยะเวลาเพียงเดือนเศษราคาหุ้นพุ่งจาก 7.75 บาท ขึ้นไปที่ 38.75 บาท หรือขึ้นไปกว่า 400% ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายที่หนาตาผิดปกติ เพราะมีนักลงทุนรายย่อยแห่เข้าไปเก็งกำไร และคงเจ็บเนื้อเจ็บตัวกันไม่น้อย

นายแฉล้ม เป็นมาร์เกตติ้งรุ่นเก่า โดยเริ่มต้นเป็นเทรดเดอร์ หรือพนักงานเคาะซื้อขายหุ้นประจำหน้ากระดาน สังกัดบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ไทยเม็กซ์ จำกัด และมีเสียงร่ำลือว่า นายแฉล้ม เป็นหนึ่งในเทรดเดอร์แก๊งหน้ากระดาน หรือกลุ่มเทรดเดอร์ที่หาประโยชน์จากการเคาะซื้อขายหุ้นหน้ากระดาน

หลังบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ไทยเม็กซ์ ถูกสั่งปิดในวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 พร้อมกับบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์อีก 56 แห่ง นายแฉล้ม เข้าออกในบริษัทโบรกเกอร์หลายแห่ง ตำแหน่งหน้าที่เป็นฝ่ายมาร์เกตติ้ง และถูกวิพากษ์วิจารณ์ในพฤติกรรมทางด้านลบอย่างต่อเนื่อง

พนักงานมาร์เกตติ้งซึ่งมีพฤติกรรมหิวโหยในผลประโยชน์ ทั้งเชียร์หุ้น ทั้งชี้นำหุ้น ทั้งรับงานจากนักลงทุนขาใหญ่ หรือแม้กระมั่งร่วมขบวนการปั่นหุ้น ไม่ได้มีเฉพาะ นายแฉล้ม เท่านั้น

มาร์เกตติ้งตัวร้ายหลายคนถูก ก.ล.ต.ตรวจสอบพบความผิด แต่บทลงโทษที่มักได้ยินก่อนหน้าคือ พักใบอนญาต 6 เดือนบ้าง 1 ปีบ้าง หรือ 10 ปีบ้าง ไม่ค่อยมีการลงโทษหนักถึงขั้นดำเนินคดีเท่าไหร่นัก

และมาร์เกตติ้งที่ก่อความผิดหลายคนก็ลอยนวลไป พร้อมความร่ำรวยนับพันๆ ล้านบาท เพราะการหลอกต้มลูกค้าโดยร่วมขบวนการปั่นหุ้นกับ “ขาใหญ่” หรือเจ้ามือหุ้น และยังป้วนเปี้ยนอยู่แถวตลาดหุ้น แม้จะถูก ก.ล.ต.ถอนใบอนุญาตแล้วก็ตาม

นอกจากนั้น มาร์เกตติ้งตัวร้ายๆ อีกหลายคนก็ยังแฝงตัวอยู่ในบริษัทโบรกเกอร์ต่างๆ และกลายเป็นตัวอันตรายในตลาดหุ้น

นายแฉล้ม ถูกสั่งปรับในความผิดร่วมขบวนการปั่นหุ้น “ยูเอ็มไอ” แต่มีคำถามว่า นายแฉล้ม เพิ่งร่วมขบวนการปั่นหุ้นเป็นครั้งแรกหรือไม่ และ “ยูเอ็มไอ” เป็นหุ้นตัวเดียวที่ นายแฉล้ม เข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ เพราะมีเสียงลือว่ายังมีหุ้นอีกหลายตัวที่แก๊ง นายแฉล้ม เข้าไปปั่น เช่น หุ้นตัวเล็กชื่อย่ออักษร “เอ” นำหน้า

และมีคำถามต่อไปว่า บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่กรุ๊ป จำกัด มีส่วนรู้เห็นหรืออย่างไร และจะมีความผิดด้วยหรือไม่

คดีปั่นหุ้นยูเอ็มไอยังไม่ได้ปิดฉาก เพราะ ก.ล.ต.เพิ่งเริ่มต้นกระบวนการลงโทษโดยสั่งปรับผู้ร่วมขบวนการปั่นทั้ง 9 คนอยู่ ถ้าใครไม่ยอมจ่ายจะส่งเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินคดีอาญา แต่ถ้าจ่ายค่าปรับคดีก็จบ ไม่ต้องมีใครติดคุกติดตะราง

คนในแวดวงโบรกเกอร์กำลังจับตาว่า นายแฉล้ม จะมีเงินจ่ายค่าปรับ 72 ล้านบาท ให้ ก.ล.ต.หรือไม่ เพราะแม้เป็นเพียงพนักงานมาร์เกตติ้ง แต่จะดูถูกฐานะทางการเงินกันไม่ได้ เนื่องจากช่องทางหากินของคนอาชีพนี้มีอยู่มาก มาร์เกตติ้งบางคนจึงรวยระดับมหาเศรษฐี

ส่วนนักลงทุนคงเฝ้าดูว่า กรณีของ นายแฉล้ม จะนำไปสู่การสอดส่องพฤติกรรมมาร์เกตติ้งหรือไม่ จะนำไปสู่การกวาดล้างมาร์เกตติ้งที่ชักจูงนักลงทุนไปหมดเนื้อหมดตัวหรือไม่

มาร์เกตติ้งตัวแสบๆ ยังหลงเหลืออีกไม่น้อย ถามมาร์เกตติ้งด้วยกันก็จะรู้ว่าใครเป็นตัวแสบ และฝังตัวอยู่ที่โบรกเกอร์ใดกันบ้าง

ชุมชนคนหุ้น...โดย สุนันท์ ศรีจันทรา
กำลังโหลดความคิดเห็น